บานาน่าแลนด์ ดินแดนกล้วย ๆ ในอำเภอภูหลวง จังหวัดเลย เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรนิเวศ ที่เราอยากชวนแฟนฟาร์มไป เที่ยวฟาร์ม กันสักครั้ง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการใช้ช่วงเวลาวันหยุดกับการออกไป เที่ยวฟาร์ม หรือพักผ่อนในบรรยากาศฉ่ำเย็น นั่งเล่นชิลล์ ๆ เพื่อชาร์จพลังกายใจไปกับวิวม่านหมอกที่ลอยล้อหยอกยอดเขา ชื่นชอบที่ได้ออกไปสัมผัสวิถีชีวิตเนิบช้าในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ นอนพักโฮมสเตย์ที่โอบล้อมด้วยทุ่งนาและผืนน้ำ หรือชื่นชอบที่จะได้สร้างเสริมประสบการณ์ทำเกษตรผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งไม่ว่าคุณจะออกเดินทางปลีกวิเวกแบบฉายเดี่ยว ไปเที่ยวเป็นคู่ รวมตัวเป็นแก็งค์ หรือยกกันไปทั้งครอบครัว ที่บานาน่าแลนด์ตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน
หลายคนรู้จัก บานาน่าแลนด์ และ คุณบั้ม – ลักขณา แสนบุ่งค้อ ผู้พลิกฟื้นผืนนาที่ว่างเปล่านี้ให้กลายเป็นฟาร์มเกษตรอินทรีย์ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยข้าว ปลา นา น้ำ พืชผักปลอดสาร สมุนไพรพื้นบ้าน ฯลฯ จากช่องทางต่าง ๆ ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่โดดเด่นด้วยปราสาทฟางและมีทิวเทือกเขาของภูหอเป็นฉากหลัง
“บานาน่าแลนด์เริ่มจากที่บั้มไปแข่งขันรายการ Win Win WAR Thailand เมื่อปี พ.ศ.2561 เพื่อพัฒนาธุรกิจแปรรูปขนมเพื่อสุขภาพจากกล้วยน้ำว้าแบรนด์ Banana Family และบั้มเคยคิดไว้ว่าอยากสร้างสถานที่สักแห่งในชุมชนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว แต่ติดที่เราไม่มีเงินทุน เมื่อได้เข้าร่วมวินวินวอร์ พี่เจ – คุณเจรมัย พิทักษ์วงศ์ หนึ่งในคณะกรรมการของรายการแนะนำว่าให้บั้มเริ่มทำเรื่องท่องเที่ยวได้เลย เพราะขนมกล้วยของเราลงตัวแล้ว จากที่เคยอยู่ในโรงงานขนมมาตลอดก็กลับมาพัฒนาผืนนาที่ว่างเปล่า เริ่มต้นจากไอเดียสู่การลงมือทำอย่างจริงจัง ค่อย ๆ ทำให้ครบวงจรจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรนิเวศที่บั้มใช้สโลแกนว่า ท่องเที่ยวชุมชนทุกคนคือดารา สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ และกระจายรายได้สู่ชุมชนได้อย่างที่ตั้งใจไว้ค่ะ”
ท่องเที่ยวชุมชนทุกคนคือดารา
“บั้มตั้งใจทำท่องเที่ยวชุมชนในรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคมหรือ SE (Social Enterprise) คิดตั้งแต่แรกเริ่มว่าจะทำยังไงให้ธุรกิจอยู่ได้ จะคืนกำไรให้ชุมชนได้ยังไง ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงาน ต้นน้ำเป็นยังไง การรับซื้อวัตถุดิบโดยที่ไม่กดราคา แล้วปลายน้ำล่ะ คนที่ได้รับสินค้าเขาก็จะรู้ว่าทุกอย่างมันถูกกระจายไปที่ไหนบ้าง อะไรแบบนี้ค่ะ นี่คือสิ่งที่เราทำมาเรื่อย ๆ เพื่อช่วยชุมชน ตัวอย่างเช่นโครงการทุ่งนาออนไลน์ที่บั้มคิดและทำในช่วงโควิด ซึ่งเป็นช่วงที่เราไม่มีนักท่องเที่ยว เพื่อแก้ปัญหาเรื่องรายได้”
“เราใช้พื้นที่ของตัวเองเป็นสาธารณะประโยชน์เพื่อทำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรนิเวศ สร้างอาชีพและรายได้ให้ชุมชน ผู้มาเยือนจะได้เห็นทั้งวิถีชีวิตและไอเดียแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาด้านต่าง ๆ ของเรา บั้มได้นำโมเดลเศรษฐกิจใหม่ หรือ BCG Model ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมมาประยุกต์ใช้กับทุกอย่างในสวน ตั้งแต่การเริ่มต้น วางแผน คิดกลยุทธ์ปรับตัว และต่อยอดธุรกิจที่คำนึงถึงชุมชนเป็นหลัก
“ที่พักโฮมสเตย์ของเราต่อยอดมาจากลูกค้าทุ่งนาออนไลน์ ซึ่งบั้มอยากให้คนที่เป็นเจ้าของทุ่งนาได้มานอนที่นี่ มาเห็น มาลงมือทำ มาสัมผัสวิถีชีวิต มาลองเป็นเจ้าของฟาร์มได้เลยใส่แพ็คเกจที่พักรวมไปด้วยค่ะ”
ปราสาทฟาง = ไม่เผาฟาง
ก่อนหน้านี้บานาน่าแลนด์มีเพียงสะพานไม้ไผ่ที่เรียกกันว่า สะพานดาว ทอดยาวไปตามท้องนาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินถ่ายรูปและนั่งเล่นชมธรรมชาติ ต่อมาคุณบั้มและน้อง ๆ ในชุมชนได้คิดโครงการ For Fang For Fun ขึ้นมาเพื่อรณรงค์และลดการเผาฟางซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดมลภาวะเป็นพิษในชุมชน จึงใช้เศษฟางข้าวจากชาวบ้านนำมาสร้างเป็นปราสาทฟางและมีวิวภูหอเป็นฉากหลัง กลายเป็นแลนด์มาร์กของท่องเที่ยวชุมชนที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน
“ก่อนช่วงโควิดเรามีรายได้จากการตั้งกล่องรับบริจาคนักท่องเที่ยวที่มาเข้าชมปราสาทฟาง เงินที่ได้ก็นำมาทำปราสาทฟางต่อ พร้อมกับสร้างการรับรู้ว่าเราจะสร้างประโยชน์จากฟางข้าวได้อย่างไร พยายามคิดหาวิธีทำให้เกิดมูลค่าสูงที่สุดก่อนนำไปทำปุ๋ย เช่น การทำเชือกจากฟางข้าวแล้วสานเป็นกระถางปลูกผัก ทำเป็นชุด Eco Kit เป็นต้น วิธีการเหล่านี้สามารถช่วยลดการเผาฟางอย่างเห็นได้ชัด”
หลากหลายกิจกรรมสไตล์อีโคทัวร์
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนชุมชนโปรแกรม Phuho Ecotour มีให้เลือกทั้งแบบแพ็คเกจและเที่ยวในระยะเวลาสั้น ๆ มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น กิจกรรมทำถ้วยปากชาม เรียนรู้การทอผ้าฝ้ายตุ่ย ไปดูข้าว 28 สายพันธุ์ที่สวนพืชไทย อบตัวและแช่เท้าคลายเมื่อยกับโปรแกรมสปาเตียงแคร่ ลงมือทำ Eco print พิมพ์ผ้าจากใบไม้สีธรรมชาติแบบไม่ซ้ำใคร ทำอาหารจากพืชผักในสวน ดูดาวที่ปราสาทฟาง หรือพักผ่อนโฮมสเตย์ตามอัธยาศัย
เที่ยวฟาร์ม บานาน่าแลนด์ สนุกสุดฟินได้ทุกฤดู
“แนะนำให้มาเที่ยวกันช่วงหน้าฝน หลังจากฝนตกช่วงกลางคืน ในตอนเช้าคุณจะได้สัมผัสไอหมอก อย่าคิดว่าเฉอะแฉะ ไม่ค่ะ ที่นี่จะสนุกมาก ได้เห็นถึงการเจริญเติบโตของธรรมชาติตลอดเส้นทาง
“สำหรับใครที่ไม่อยากเปียกฝน แนะนำให้มาช่วงปลายฝนต้นหนาว เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของจังหวัดเลย ถ้าใครอยากเน้นทำกิจกรรม สามารถมาสนุกกันในช่วงหน้าร้อน พาเด็ก ๆ มาเล่นน้ำ พายเรือ เล่นในป่าปาล์ม ทำงานคราฟต์ และศิลปะจากผ้าจากดิน
“ใครอยากทำงานเกษตร อยากลองมาอยู่ มาลองสเตย์ดูก่อนว่าใช่ไหม ชอบไหม ก็สามารถนำองค์ความรู้ไปปรับใช้กับพื้นที่ของตัวเองได้ค่ะ ส่วนใครสนใจเรียนรู้เรื่องทำเกษตรด้วย ได้รีแล็กซ์ด้วย ได้ผลผลิตข้าวกลับไปด้วย สามารถจองมาในแพ็คเกจทุ่งนาออนไลน์ มาเป็นเจ้าของฟาร์ม ได้มาเที่ยว ได้มาใช้สิ่งที่ชุมชนเรามี ที่เราตั้งใจทำทุกอย่างเหล่านี้ ให้บานาน่าแลนด์ได้เป็นดินแดนแห่งความสุขของผู้มาเยือนทุกคน”
แฟนฟาร์มที่สนใจสามารถเดินทางมาได้ที่ บานาน่าแลนด์ 223 หมู่ที่ 1 ตำบลภูหอ อำเภอภูหลวง จังหวัดเลย
สอบถามรายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวและอุดหนุนสินค้าชุมชน โทรศัพท์ 08-3465-5539
เรื่อง : อังกาบดอย
ภาพ : อภิรักษ์ สุขสัย, ณัฐวรรธน์ ไทยเสน