อยากปลูก เมลอนออร์แกนิค ไว้กินเองที่บ้าน… เริ่มอย่างไรดี

เมลอนเป็นผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบ เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสนุ่มฉ่ำ รสหวาน และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เรียกได้ว่า “อร่อย” ทั้งยังมีผลกลมสวยและขนาดพอเหมาะ เมลอนออร์แกนิค

มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อุดมด้วยวิตามินหลายชนิด มีไขมันและแคลอรี่ต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล ถือเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่ล้อมวงรับประทานกันได้ทั้งครอบครัว จึงไม่แปลกที่ใครๆ ก็อยากลองปลูก เมลอนออร์แกนิค ไว้กินเองที่บ้านบ้าง แต่ก็ติดปัญหาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี

เมลอนออร์แกนิค

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกแบบอินทรีย์ ไม่ใช้ปุ๋ยและสารเคมีใดๆ ทั้งสิ้น จึงมักมีคำถามว่า… ปลูกแบบนี้แล้วได้ผลจริงหรือ??? … เรามาหาคำตอบกันจากประสบการณ์ตรงของ คุณอรรถพล ไชยจักร เจ้าของไร่หลังฉาง จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้เขียนหนังสือ My Little Farm Vol.7 เมลอนอินทรีย์ Organic Melon

แน่นอนว่าก่อนปลูกพืชชนิดใดก็ตาม ผู้ปลูกควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของพืชนั้นๆ ก่อน เพราะไม่ใช่พืชทุกชนิดที่เพียงแค่หยอดเมล็ดลงดิน รดน้ำเช้า-เย็น แล้วจะออกดอกติดผลให้อย่างที่หวัง สำหรับเมลอนไม่ใช่ผลไม้ที่ปลูกเลี้ยงยากเกินไป หากเราเข้าใจลักษณะนิสัยและสภาพแวดล้อมที่เขาชอบและเติบโตได้ดีเสียก่อน

เมลอนออร์แกนิค

ก่อนปลูกเมลอนอินทรีย์ สิ่งที่ควรรู้ได้แก่ เรื่องดิน จุลินทรีย์ ธาตุอาหารและฮอร์โมนพืช การเลือกพันธุ์ปลูก แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ต้องเข้าใจพืช เข้าใจสภาพแวดล้อมที่เขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นค่าพีเอช (pH) อุณหภูมิ น้ำ ความชื้น ธาตุอาหารต่าง ๆ โรคแมลงศัตรูพืชและการป้องกันกำจัด ซึ่งต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม รวมถึงต้องใส่ใจและช่างสังเกตด้วย

สำหรับการปลูกกินเองในบ้าน ถ้ามีพื้นที่เพียงพอควรทำแปลงปลูกลงดิน หากไม่สะดวกก็สามารถปลูกในภาชนะได้ เช่น ถุงปลูก กระถางพลาสติก กระสอบ กล่องโฟม เป็นต้น แต่ภาชนะนั้น ๆ ต้องมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง และความลึกไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร เพื่อให้ระบบรากเจริญเติบโตได้เต็มที่

เมลอนออร์แกนิค

การเตรียมดินปลูก

ควรปรุงดินให้พร้อมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนปลูก เพื่อพักดินให้ย่อยสลายจนพร้อมใช้งานได้ ดินสูตรนี้สามารถใช้ปลูกได้ทั้งการปลูกในแปลง ในถุงและภาชนะต่าง ๆ มีขั้นตอนดังนี้

  1. ให้สารละลายจุลินทรีย์กลุ่มย่อยสลาย เชื้อราไตรโคเดอร์มา และจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงจนแปลงปลูกชุ่มชื้น แล้วทิ้งไว้ 2 วัน
  2. ใส่มูลวัวอัตรา 1 กระสอบต่อพื้นที่ 2 ตารางเมตร แล้วโรยทับบาง ๆ ด้วยปูนขาวและปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนให้ทั่วแปลง จากนั้นหว่านผงขี้เถ้าปริมาณ ½ กิโลกรัม เพื่อเพิ่มธาตุอาหารแก่ดิน
  3. คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดกับหน้าดินบนแปลงปลูกให้เข้ากัน โดยพรวนดินลึกไม่ต่ำกว่า 15-20 เซนติเมตร ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์จึงย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูก
เมลอนออร์แกนิค
ต้นกล้าที่ย้ายปลูกลงแปลงต้องมีใบเลี้ยง 2 ใบ ใบจริง 2 ใบ หรือมีอายุ 8-12 วันหลังเพาะเมล็ด

หลังจากเพาะเมล็ด ย้ายต้นกล้าลงปลูกแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือต้องทำให้ติดผล เมลอนเป็นพืชที่มีดอกเพศผู้และดอกเพศเมียแยกกัน เพื่อให้ติดผลชัวร์ ๆ จึงต้องช่วยผสมเกสร หลังจากติดผลแล้วก็ดูแลรักษา ใส่ปุ๋ยอินทรีย์และใช้ชีวภัณฑ์ช่วยป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรู หลังจากปลูก 80 – 90 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลมารับประทานได้

ช่วยผสมเกสรโดยนำเกสรจากดอกเพศผู้ไปแต้มที่ยอดเกสรเพศเมียให้ทั่ว หรือใช้พู่กันช่วยแต้มก็ได้
หลังจากผสมเกสร 5-7 วัน ผลเมลอนจะมีขนาดประมาณไข่ไก่
หลังจากติดผลให้เลือกผลที่ดีที่สุดเพียงผลเดียว ประมาณ 10 วันจึงเริ่มแขวนผลเพื่อช่วยพยุงไม่ให้ขั้วผลต้องรับน้ำหนักมากเกินไป
ระหว่างผลเจริญเติบโตควรหมั่นให้ปุ๋ยเพิ่ม โดยให้ปุ๋ยมูลไส้เดือนและขี้เถ้าทางราก ฉีดพ่นปุ๋ยน้ำหมักปลาและน้ำหมักนมทางใบ เพื่อเพิ่มไนโตรเจน แคลเซียม และฮอร์โมนพืช
หลังจากปลูกได้ 80-90 วันก็ได้เวลาเก็บผล แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และช่วงฤดูปลูกด้วย

การปลูกเมลอน บางคนก็ว่ายาก บางคนก็ว่าง่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความใส่ใจ ปกติแล้วการปลูกเมลอนโดยเฉพาะปลูกในปริมาณมากเพื่อจำหน่ายนั้นมีความยากระดับหนึ่ง แต่การทำแบบอินทรีย์จะยิ่งยากขึ้นไปอีก จึงต้องทำความเข้าใจ ทั้งเรื่องจุลินทรีย์ ฮอร์โมนพืช ธาตุอาหาร และสภาพแวดล้อมที่เมลอนต้องการ หมั่นสังเกตจะดีที่สุด สังเกตว่าเขาชอบสภาพแวดล้อมแบบไหน มีโรคภัยไหม แข็งแรงดีไหม ก็จะช่วยให้ประสบความสำเร็จได้มากขึ้น

สามารถอ่านเทคนิคการปลูกเมลอนอินทรีย์ได้อย่างละเอียด รวมถึงข้อควรรู้อื่นๆ ที่ช่วยให้การปลูกเมลอนโดยไม่ใช้สารเคมีเป็นเรื่องง่ายขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการปลูกพืชได้หลายชนิด ได้ในหนังสือ My Little Farm Vol.7 เมลอนอินทรีย์ Organic Melon

เรื่อง : อังกาบดอย

ภาพ : ธนกิตติ์ คำอ่อน, ไร่หลังฉาง


เรื่องที่น่าสนใจ