ต้นคริสต์มาส เป็นพรรณไม้ที่นิยมใช้ประดับทั้งภายในและภายนอกอาคารอย่างกว้างขวาง เมื่อสีใบประดับ (bract) เริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง ก็เป็นที่รู้กันว่าเทศกาลคริสต์มาสมาถึงแล้วและกำลังเข้าสู่ปีใหม่ กระทั่งไล่ยาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
คริสต์มาส มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Euphorbia pulcherrima Willd. ex Klotzsch & hybrid ไม้อวบน้ำวงศ์ยูโฟเบีย (Euphorbiaceae) เช่นเดียวกับโป๊ยเซียนและโกสน ในบ้านเราบ้างเรียกกันว่าบานใบ โพผัน หรือสองระดู ส่วนชื่อสามัญนอกจากชื่อ Poinsettia แล้ว บ้างก็เรียก Christmas Star, Christmas Flower, Lobster Plant และ Mexican Flameleaf ลักษณะต้นเป็นไม้พุ่ม อายุหลายปี สูง 1-4 เมตร รูปทรงแผ่กว้าง ถ้าปลูกลงดินจะได้พุ่มใหญ่ ลำต้นอ่อนมีสีเขียวเมื่อแก่เป็นสีน้ำตาล ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางสีขาวขุ่น ใบเดี่ยวรูปไข่ ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก 2-3 หยัก แผ่นใบสีเขียวเข้ม ใบประดับรูปใบหอก มีหลายสี ได้แก่ สีขาว เหลือง แดง และชมพู ดอกสีเหลืองออกเป็นช่อที่บริเวณปลายยอดในช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ เมื่อมีดอก ใบประดับจะมีสีสันสวยงาม ส่วนช่วงเวลาอื่นใบจะมีสีเขียวตามปกติ
แม้ต้นที่มีใบประดับสีแดงจะยังคงได้รับความนิยมสูงสุดจากนักปลูกทั่วประเทศ แต่เกษตรกรหลายรายก็ไม่หยุดพัฒนาและคัดเลือกต้นที่มีสีใบประดับแปลกตา รวมถึงมีการนำเข้าต้นที่มีใบประดับสีสันหลากหลายจากต่างประเทศเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ซื้อด้วย
เทคนิคปักชำกิ่งคริสต์มาส
เกษตรกรในประเทศไทยนิยมขยายพันธุ์ต้นคริสต์มาสด้วยวิธีปักชำกิ่ง เช่นเดียวกับสวนลุงวุฒิ ผู้ผลิตและจำหน่ายไม้ประดับคุณภาพ และเกษตรกรในอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย
เทคนิคการปักชำกิ่งคริสต์มาสโดยสวนลุงวุฒิ มีขั้นตอนดังนี้
Step 1 เตรียมวัสดุปักชำโดยผสมขุยมะพร้าวและพีตมอสส์ อย่างละ 1 ส่วน ใส่ลงในกระถางพลาสติกขนาด 3 นิ้ว รดน้ำให้ชุ่ม
Step 2 เลือกกิ่งจากต้นที่แข็งแรง สมบูรณ์ โดยตัดได้ทั้งส่วนยอดและลำต้น ไม่ควรเลือกกิ่งที่มีขนาดเล็กเกินไป หากเลือกใช้กิ่งกึ่งอ่อนกึ่งแก่ยิ่งออกรากได้ไว
Step 3 ตัดกิ่งเป็นท่อนยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ลิดใบออก เหลือไว้แค่กิ่งละ 2 ใบ
Step 4 ปักชำกิ่งลงในกระถางที่เตรียมไว้ ลึกประมาณ 1 นิ้ว
Step 5 นำกระถางไปวางไว้ในที่ที่มีแสงรำไรหรือภายใต้โรงเรือนพรางแสง ดูแลรดน้ำสม่ำเสมอ ใช้เวลาประมาณ 40-50 วันกิ่งชำจะเริ่มออกราก สามารถย้ายปลูกลงในกระถางขนาดใหญ่ขึ้นได้ต่อไป
เนื่องจากคริสต์มาสจะเปลี่ยนสีแค่ปีละครั้งในช่วงฤดูหนาว การผลิตต้นเพื่อให้เติบโตและใบประดับเปลี่ยนสีได้ทันเวลา แนะนำให้เริ่มทยอยปักชำกิ่งตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยใช้เทคนิคที่แนะนำข้างต้น หลังจากปักชำแล้วจึงทยอยเปลี่ยนกระถางเรื่อย ๆ บำรุงดูแลและตัดแต่งพุ่มต้น โดยตัดแต่งประมาณ 4 ครั้งจึงจะได้พุ่มสวย และนิยมตัดแต่งครั้งสุดท้ายในช่วงเดือนสิงหาคม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ปลูกว่าต้องการทรงพุ่มขนาดไหน
คริสต์มาสเป็นไม้ประดับที่มีอัตราการเจริญเติบโตปานกลาง ต้องการแสงแดดเต็มวันถึงกึ่งร่ม ชอบอากาศเย็น ชอบดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี อาจใช้ดินร่วน 2 ส่วน ผสมกับเศษใบไม้ผุ และปุ๋ยคอกอย่างละ 1 ส่วนเป็นวัสดุปลูก รดน้ำแค่พอให้ดินชุ่มปานกลาง และให้ปุ๋ยตามสมควร
เนื่องจากใบมีสีสวยทั้งยังทนทาน สามารถปลูกเลี้ยงในอาคารได้นาน 2-4 สัปดาห์ จึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับกระถางสำหรับตกแต่งช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ หากปลูกในกรุงเทพฯ จะดูแลค่อนข้างยากเพราะมีเพลี้ยแป้งรบกวนมากและอากาศร้อน จึงนิยมปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น
เกร็ดน่ารู้ : ผู้ปลูกควรระมัดระวังเพราะทุกส่วนของต้นคริสต์มาสมีน้ำยางซึ่งเป็นพิษ เมื่อสัมผัสทำให้เกิดผื่นคัน ผิวหนังบวมแดง หากโดนตาจะทำให้เยื่อบุตาอักเสบ หนังตาบวม อาจมีอาการตาบอดชั่วคราวได้ ในผู้ที่แพ้มากจะเกิดเป็นแผลไหม้ พุพอง อาจเกิดการติดเชื้อในภายหลัง ใบประดับมีชันและสารที่ให้สี ใบนำมาตำใช้เป็นยาพอกแก้โรคผิวหนังบางชนิด เช่น ไฟลามทุ่ง
นอกจากนี้ ยังมีไวท์คริสต์มาส ชื่อสามัญเรียก Little Christmas Flower, Snow Bush และ White Christmas มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า E. leucocephala Lotsy เป็นไม้พุ่มอายุหลายปี ทุกส่วนของต้นมีน้ำยางที่ระคายเคืองผิว มีใบประดับสีขาว ออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอดในช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ นิยมปลูกเป็นไม้กระถางประดับภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักชำกิ่งเช่นเดียวกับคริสต์มาส
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับไม้ดอกประดับยอดนิยมมากกว่า 300 ชนิดและพันธุ์ได้เพิ่มเติมในหนังสือ รวมพันธุ์ไม้ดอก Flowering Plants
เรื่อง : วิรัชญา ภาพ : อภิรักษ์ สุขสัย และอนุพงษ์ ฉายสุขเกษม