การ เพาะกล้าผัก ให้งอกอย่างสมบูรณ์นั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ในธรรมชาติของเมล็ดแต่ละชนิดจะมีเปลือก หุ้มเมล็ดที่มีความหนาและบางเเตกต่างกัน ภายในเมล็ดจะมีเเหล่งอาหารที่จำเป็นสำหรับต้นอ่อน (เอ็มบริโอ) หลังจากเมล็ดได้รับการกระตุ้นการงอกโดยความชื้นของน้ำและออกซิเจนที่เหมาะสม
ซึ่งออกซิเจนที่เหมาะสมในการ เพาะกล้าผัก จะสัมพันธ์กับเทคนิคการกลบดินเพาะเมล็ด หากกลบดินลึกเกินไปจะทำให้ ออกซิเจนน้อยลง ส่งผลทำให้อัตราการงอกลดลง เเต่หากกลบเมล็ดตื้นเกินไปจะทำให้เมล็ดมีความชื้น ไม่เพียงพอที่จะทำให้เปลือกและอาหารภายในเมล็ดอ่อนตัว อันมีผลให้อัตราการงอกลดลงเช่นกัน
ดังนั้นปัจจัยที่จะทำให้การ เพาะกล้าผัก งอกได้ด้วยอัตราสูงคือ ควรเลือกใช้วัสดุเพาะกล้าที่ เหมาะสม กลบดินและรดน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ รวมถึงรู้ลักษณะนิสัยและเเหล่งกำเนิดของ พืชผักว่ามีความชอบอากาศหนาวเย็นเเตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ปกติแล้วพืชผักสลัดมักจะงอกได้ดี ในช่วงที่มีอากาศเย็น (เดือนธันวาคม-มกราคม) เพราะเป็นพืชที่มีต้นกำเนิดในเขตอากาศหนาว ขณะที่พืชผักไทยๆ เช่น ผักบุ้ง คะน้า สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี สำหรับปัจจัยในการเพาะกล้า ที่จะได้ผลดีหรือไม่ มีดังนี้
- เปลือกหุ้มเมล็ดของพืชผักเเต่ละชนิด
- ระบบราก การระบายน้ำของรากพืชเเต่ละชนิด
- ลักษณะนิสัยของพืชผักที่มีต่ออากาศและความชื้นที่เเตกต่างกัน
- ความลึก-ตื้นในการกลบเมล็ดด้วยวัสดุเพาะกล้า
- ธาตุอาหารที่เหมาะสมกับกล้าผัก (ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีสังเคราะห์)
- ไม่มีโรคพืชหรือเเมลงศัตรูพืชในดินเพาะกล้า (ไม่ฉีดยาฆ่าเเมลงสังเคราะห์)
วัสดุเพาะกล้าผัก (สูตรไร่ปลูกรัก)
เเกลบดำเเห้ง 1 ส่วน+ ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน + ขุยมะพร้าวร่อนละเอียด 1 ส่วน
มีขั้นตอนการ เพาะกล้าผัก ดังนี้
- นำวัสดุเพาะใส่ลงตะกร้าพลาสติก ความลึก 8 – 10 เซนติเมตร ประมาณ 3 – 4 ของตะกร้า
- ใช้ไม้ไอศกรีมหรือไม้บรรทัดทำร่องเป็นแถว (ให้กะความลึกประมาณขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเมล็ดคูณสอง)
- โรยเมล็ดตามร่องบางๆ กลบดินแล้วรดน้ำให้ชุ่ม นำไปวางในที่ร่ม ควรคลุมตาข่ายป้องกันสัตว์ที่อาจจะมาคุ้ยเขี่ยหรือกัดกินเมล็ด ประมาณ 5-7 วัน เมล็ดจะงอกเป็นต้นกล้า
- ให้ย้ายกล้าที่มีใบเลี้ยง 1 คู่ลงถาดหลุมที่เตรียมวัสดุเพาะไว้เรียบร้อยแล้ว (หรือหากปลูกลงตะกร้าในระยะไม่ถี่นัก ก็อาจปล่อยให้ต้นผัก เติบโตต่อจนมีใบจริงแล้วจึงค่อยย้ายลงแปลงปลูกได้เลย) ต้องระมัดระวัง ย้ายกล้าอย่างเบามือให้จับที่ปลายใบเลี้ยงแล้วใช้ไม้ปลายแหลมกดลงด้านข้าง ค่อยๆ ดึงต้นขึ้นมา
- เมื่อย้ายลงถาดเพาะให้วางไว้ในบริเวณที่แสงส่องถึง แต่ไม่แรงจนเกินไปนักประมาณ 2 สัปดาห์ เมื่อกล้าผักมีใบจริงแล้วจึงย้ายลงแปลง ปลูกต่อไป
การทำวัสดุเพาะกล้านั้น อินทรียวัตถุต่างๆ อาจมีเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคเน่าคอดิน (Damping off Disease) ซึ่งมักเกิดกับพืชที่กำลังงอกในช่วง 7 วันเเรก อาการของพืชจะสังเกตเห็นต้นมีอาการหักงอ บริเวณโคนจะมีสีดำของเชื้อราชนิดนี้ วิธีการป้องกันจะต้องทำการพาสเจอไรซ์ดินเพาะกล้า ดังนี้
- นำดินเพาะกล้าบรรจุถุงพลาสติกใสถุงละ 10 กิโลกรัม
- นำถุงบรรจุดินเพาะกล้าตากเเดดเป็นเวลา 7 วัน
- ในช่วงระหว่าง 7 วัน ให้พลิกกลับถุงให้โดนเเดดด้านละเท่าๆ กัน เพื่อให้เเสงเเดดฆ่าเชื้อรา หรือเเบคทีเรียที่อาจทำให้เกิดโรคเน่าคอดินได้
- เมื่อครบ 7 วันจึงนำดินเพาะกล้าไปใช้หรือเก็บในบริเวณที่ไม่โดนเเสงเเดด
กล้าผักที่เริ่มมีใบจริงงอกมา เมื่อใบจริงเริ่มเติบโตแข็งแรง และแทงใบจริงคู่ใหม่ จึงนำไปย้ายลงแปลงปลูกได้กล้าผักที่ย้ายออกมาจากถาดหลุมจะเห็นรากของต้นกล้าเต็มแน่น ในวัสดุปลูก ย้ายกล้าผักที่มีใบเลี้ยง 1 คู่จากตะกร้าลงถาดหลุม หลุมละ 1 ต้น ให้มีพื้นที่เติบโตเป็นต้นกล้าที่พร้อมจะลงแปลงปลูกต่อไป
เรื่องและภาพ : “กานต์ ไร่ปลูกรัก” ( thaiorganicfood)
ภาพประกอบ : Pumpumm