อยู่คอนโดฯ ก็ ปลูกเมลอน ไว้ทานได้!! พื้นที่ริมระเบียงเล็ก ๆ ในคอนโดฯ หากนึกไม่ออกว่าจะปลูกต้นไม้อะไรดี หลายคนคงนึกถึงผักสวนครัวไม่กี่อย่าง หรือมุมสวนไม้ประดับเล็ก ๆ เราจึงอยากจะลองมาชวนปลูกอะไรใหม่ ๆ ที่นึกไม่ถึงอย่าง “เมลอน” กันดูบ้าง ปลูกเมลอน
เมลอนเป็นผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบ เมลอน (Cucumis melo) เป็นไม้ฤดูเดียวอยู่ในตระกูลแตง (Cucurbitaceae) ต้นเป็นเถาเลื้อยยาวได้ถึง 3 เมตร ดอกแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน เมื่อได้รับการผสมเกสรจะพัฒนาต่อไปกลายเป็นผล ผลมีลักษณะกลมรี ผิวและสีเนื้อต่างกันไปตามสายพันธุ์ ปลูกเมลอน
สำหรับไอเดียสวนเล็ก ๆ ริมระเบียงคอนโดฯ แห่งนี้ อยู่บนชั้น 16 มีพื้นที่เพียง 0.5 x 2 เมตร เท่านั้น แต่สามารถปลูกเมลอนได้มากถึง 5 ต้น ต่อ 1 ครอป เลยทีเดียว คุณกานต์ กาญจนชล เจ้าของสวนเมลอนไซซ์มินิแห่งนี้เล่าว่า เขาชอบรับประทานเมลอนก็เลยทดลองปลูกด้วยตัวเอง โดยหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต และหนังสือ My Little Farm Vol.7 เมลอนอินทรีย์ มาปรับใช้ซึ่งบางอย่างมีรายละเอียดแตกต่างจากการปลูกทั่วไป เนื่องจากมีข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง รวมถึงการเลือกใช้ปุ๋ยเคมีผสมผสานกับปุ๋ยอินทรีย์เพื่อความสะดวกสำหรับคนเมือง
เริ่มจากทำโรงเรือน
แม้จะมีพื้นที่เล็ก ๆ แต่ก็ทำโรงเรือนไว้ด้วยตามขนาดของระเบียง ใช้ท่อพีวีซีประกอบเข้าด้วยกันเป็นโครงสี่เหลี่ยม จากนั้นนำตาข่ายพลาสติกมาคลุมและยึดเข้ากับโครงด้วยคลิปล็อก เว้นช่องให้เปิดปิดได้ ข้อดีของโรงเรือนคือ ช่วยป้องกันแมลงศัตรูพืช ทั้งโรคและแมลงต่าง ๆ ทั้งยังช่วยไม่ให้ต้นเมลอนปะทะลมแรงมากเกินไปเนื่องจากระเบียงอยู่สูง ภายในติดตั้งไฟแอลอีดี เพิ่มเติมเพื่อให้แสงสว่างเพียงพอสำหรับให้พืชสังเคราะห์แสง เนื่องจากระเบียงนี้จะได้รับแดดประมาณครึ่งวันเท่านั้น และติดระบบให้น้ำอัตโนมัติรดน้ำเช้า–เย็น โดยใช้ท่อไมโครพีอีต่อตรงไปยังถุงปลูกแต่ละต้น
วิธีปลูกเมลอนฉบับคนเมืองพื้นที่น้อย
1.นำเมล็ดเมลอนมาแช่น้ำอุ่นไว้ 1 คืน จากนั้นนำมาห่อด้วยกระดาษทิชชูที่ชุ่มชื้นบ่มไว้ประมาณ 1 วัน เมื่อมีรากแทงออกมา จึงนำมาหยอดลงในหลุมเพาะที่ใช้ขุยมะพร้าวเป็นวัสดุปลูกและวางไว้ในที่ร่ม ระหว่างนี้ให้รดน้ำสม่ำเสมอโดยไม่ต้องให้ปุ๋ย เมื่อต้นกล้ามีใบเลี้ยงงอกขึ้นมาให้ย้ายมาวางให้ได้รับแสงเพิ่มขึ้น เพื่อปรับตัวก่อนปลูกในพื้นที่จริงพอแตกใบจริงใบที่ 2 จึงย้ายลงภาชนะปลูกที่เตรียมไว้
2.เตรียมภาชนะปลูก ใช้ถุงขนาด 8×13 นิ้ว วัสดุปลูกใช้ขุยมะพร้าว : ปุ๋ยคอก : ดิน อัตราส่วน 1:1:1 รองก้นหลุมด้วยสตาเกิลจีเล็กน้อยเพื่อป้องกันเพลี้ยทำลายใบอ่อน ระยะห่างระว่างต้นประมาณ 50 เซนติเมตร
3.เมื่อย้ายปลูกเรียบร้อยแล้วต้องใช้น้ำสม่ำเสมอ โดยใช้วิธีติดตั้งระบบน้ำหยด และรดน้ำเพิ่มเติมเนื่องจากอยู่บริเวณที่มีลมแรงต้นจะคายน้ำมากกว่าปกติ ให้ปุ๋ย A และ B ซึ่งเป็นปุ๋ยสำหรับปลูกผักไฮไฮโดรโปนิกส์หาซื้อได้ง่ายเหมาะกับคนเมืองตามอัตราส่วนที่ระบุไว้ที่ฉลาก
4.เมื่อปลูกได้ประมาณ 1 สัปดาห์ต้นสูงประมาณ 1 คืบ ให้ผูกเชือกพยุงลำต้นเพื่อป้องกันต้นทอดเลื้อยไปตามดินจับต้นพันทวนเข็มนาฬิกา
5.เมื่อต้นเติบโตขึ้นให้ตัดกิ่งแขนง เพื่อให้ธาตุอาหารเลี้ยงต้นหลักได้เต็มที่ เมื่อต้นเริ่มออกดอกให้สังเกตดอกตัวผู้และตัวเมีย (ตัวเมียลักษณะเป็นกระเปาะเล็กตรงโคนดอก ให้เลือกดอกเพศผู้ที่แข็งแรงและบานเต็มที่จากต้นเดียวกันนำคอตตอนบัตแตะเกสรตัวผู้ไปแต้มที่ดอกเพศเมีย หากผสมติดวันรุ่งขึ้นกลีบดอกจะหุบและกระเปาะจะขยายใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน
6.เมื่อติดผลแล้วให้เลือกผลที่ดีที่สุดเพียงผลเดียว หรือหากปลูกรับประทานเองไม่ต้องการผลขนาดใหญ่มากนักจะเหลือไว้ 2 ผลก็ได้ โดยเหลือลูกข้อที่ 7 หรือ 9 เพื่อไม่ให้ดึงรั้งต้นมากเกินไป เมื่อผลเริ่มใหญ่ขึ้นให้ใช้เชือกแขวนผลเพื่อช่วยพยุงให้ขั้ว หลังจากแขวนผลแล้วควรตัดยอดเพื่อหยุดการเจริญเติบโต โดยเหลือใบไม้น้อยกว่า 23 ข้อ อายุเก็บเกี่ยวเมลอนจะอยู่ที่ 90-100 วัน ก่อนเก็บเกี่ยว 2 สัปดาห์ ให้ลดปริมาณการให้น้ำลงเรื่อย ๆ จะทำให้ผลมีความหวานเพิ่มขึ้น
อัปเดตข่าวสารงานเกษตรได้ที่ บ้านและสวนGarden&Farm