การปลูก พืชผักสมุนไพร แบบผสมสาน ทำให้เราได้มีพืชผักหลากหลายไว้บริโภคและใช้งานในครัวเรือน สำหรับผู้มีพื้นที่ขนาดเล็กหากอยากเริ่มต้นปลูกผัก ลองเล็งมุมที่ได้แสงกำลังดี แล้วมองหาภาชนะเหลือใช้ในบ้านขนาดต่างๆ จินตนาการว่าหากนำภาชนะเหล่านี้มาปลูกพืชสมุนไพรแล้วตั้งวางในมุมนั้น ให้มีระดับสูงบ้างต่ำบ้าง นอกจากสร้างความงามแล้วยังใช้ประโยชน์ได้ด้วยเมื่อมีภาพคร่าวๆในหัวแล้ว ลงมือเลือกพืชที่ชอบมาปลูกกันเลย
หลักในการคัดเลือก พืชผักสมุนไพร เพื่อมาตกแต่งนั้น นอกจากความชอบแล้ว ควรเลือกชนิดที่มีเทกเจอร์ใบหรือผิวสัมผัสที่ต่างกันทางสายตา ใบเล็กให้ผิวสัมผัสละเอียด ใบใหญ่ให้ผิวสัมผัสหยาบ เลือกลักษณะใบที่แคบบ้างกว้างบ้าง หยักบ้าง ผสมผสานกัน หากใบมีสีสันและลายเส้นด้วยก็ยิ่งดี จะสร้างความงามให้กับมุมนั้นได้มากขึ้น
ต่อมาคัดเลือกภาชนะรูปทรงต่างๆ สวนกินได้กับภาชนะเหลือใช้ในครัวเรือน อย่าง ถ้วย ถัง กาละมัง หม้อ หรือลังต่างๆ ฯลฯ ที่มีระดับความสูงเกินกว่ารากพืชชนิดที่จะนำมาปลูกสามารถนำมาใช้ได้หมด เพียงคัดเลือกที่เป็นวัสดุเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน จะสร้างความกลมกลืนและสร้างความงามให้กับมุมสวนนั้นได้
นอกจากนี้ ยังมีพืชสมุนไพรบางชนิดที่มีสรรพคุณทางยาและใช้เป็นไม้ประดับในสวนเนื่องจากมีใบสวย หากนำมาปลูกร่วมกันในภาชนะใบเดียว แล้วตั้งวางประดับมุมต่างๆหรือจะจัดวางร่วมกับสมุนไพรที่เด็ดไปใช้บ่อยๆในครัวเรือน อย่าง โหระพา สะระแหน่ ยิ่งช่วยให้มุมสวยนี้ได้ใช้ประโยชน์มากขึ้น
เตรียมต้นไม้และภาชนะ
เลือกภาชนะใบใหญ่สำหรับปลูกสมุนไพรหลากหลายชนิดร่วมกันได้
เลือกสมุนไพรที่ต้องการ โดยคัดเลือกชนิดที่มีผิวสัมผัสและสีแตกต่างกันเพื่อความงามในตัวอย่างนี้ใช้
-ว่านมหากาฬ (ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูง 15-30 ซม).มีรูปใบหยักสวย สีเขียวอมม่วงมองเห็นเส้นใบชัดเจนดูคล้ายมีลายสวยงาม
-เสลดพังพอน(ไม้พุ่ม หากปลูกลงดินสูงได้ 1-2 เมตร)มีใบและก้านสีเขียวอ่อน รูปใบเรียวปลายใบแหลม
-แปะตำปึง(ไม้ล้มลุกขนาดเล็ก อายุหลายปี สูงได้ 30-50 ซม.) แผ่นใบหนา มีขนอ่อนนุ่มปกคลุมคล้ายกำมะหยี่
-หญ้าปักกิ่ง(ไม้ล้มลุกขนาดเล็ก สูง10-20 ซม.)ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว หนาและเรียวคล้ายใบไผ่ ให้ดอกเล็กๆ สีม่วงอ่อน ชอบแสงแดดอ่อนๆ
Step1
นำภาชนะที่เจาะรูระบายน้ำแล้ว รองก้นด้วยเปลือกมะพร้าวสับ แล้วใส่ดินผสมลงไปความสูงประมาณครึ่งหนึ่งของภาชนะนำไม้กระถางลงไปวางให้ระดับความสูงของโคนต้นอยู่ระดับพอดีกับปากภาชนะจัดเรียงต้นที่จะปลูกให้ต้นสูงสุด เป็นไม้ประธานอยู่ด้านหลังมุมใดมุมหนึ่ง
Step2
ถอดต้นไม้ออกจากกระถางอย่างเบามือ นำวัสดุปลูกเดิมออกประมาณครึ่งหนึ่ง โดยระวังไม่ให้กระเทือนรากพืช
Tips
ก่อนย้ายกระถางลงในภาชนะใหม่ ยังไม่ควรรดน้ำควรปล่อยให้ดินแห้งเพื่อให้ถอดกระถางได้ง่ายขึ้น
Step3
ลงมือปลูกต้นไม้ โดยจัดให้ต้นที่สูงกว่าอยู่ด้านหลัง และต้นเตี้ยกว่าให้อยู่ด้านหน้า ลองจัดวางให้สวยงาม ส่วนบางต้นที่ไม่ชอบแสงแดดมากนัก อย่างหญ้าปักกิ่ง จัดให้อยู่ด้านหน้าในบริเวณที่ได้ร่มเงาจากเสลดพังพอนที่สูงกว่าด้านหลัง
Step4
ใส่ปุ๋ยละลายช้า ลงไปเล็กน้อยกระจายให้ทั่ว แล้วเติมดินผสมลงไปให้เต็มภาชนะ กดดินให้ยึดกับโคนต้น
Step5
หลังจัดเสร็จรดน้ำให้ชุ่ม นำไปวางในที่รำไร 1-2 วันเพื่อให้ต้นไม้ฟื้นตัว จากนั้นค่อยนำไปจัดวางในบริเวณที่ต้องการ
จัดวางภาชนะปลูกร่วมกัน ให้มีระดับสูงบ้างต่ำบ้างไม่บังกัน เท่านี้ก็ได้มุมสวนกินได้เก๋ๆในพื้นที่ขนาดเล็กที่คุณค่าไม่เล็กอย่างที่คิด
รู้หรือไม่
-ว่านมหากาฬ มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ โดยใช้ใบสดตำพอกฝี งูสวัด เริม และทาแก้ปวดแสบปวดร้อนได้
-เสลดพังพอน สรรพคุณบรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ งูสวัด น้ำร้อนลวก ลดอาการปวดจากแมลงกัดต่อย
-แปะตำปึงสรรพคุณ บำรุงร่างกาย แก้ร้อนใน ล้างพิษ ถอนพิษไข้ ลดความดัน
-หญ้าปักกิ่งสรรพคุณเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยลดความดัน
-โหระพาบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลมในลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร
-สะระแหน่ช่วยขับลม แก้ปวดท้อง บรรเทาอาการหวัด
สนใจจัดสวนสวยกินได้ ดูรูปแบบเพิ่มเติมได้จากเล่มนี้ “สวนสวยกินได้ Edible Garden” โดยสำนักพิมพ์บ้านและสวน
เรื่อง ทิพาพรรณ
ภาพ สิทธิศักดิ์ น้ำคำ, ปรัชญา จันทร์คง
สไตล์ วรัปศร อัคนียุทธ
ขอบคุณเจ้าของสถานที่ คุณจาตุรงค์ ขุนกอง