ช่วงเปลี่ยนฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝนเช่นนี้ เหล่าแคคตัสหลายชนิดต่างผลิดอกบานสะพรั่งให้ชม ด้วยรูปลักษณ์ที่แปลกตากว่าไม้ประดับอื่นๆ ทั้งยังเติบโตได้ดี แคคตัสและไม้อวบน้ำ
และใช้พื้นที่น้อย แต่จะทำอย่างไร เมื่อปลูกแล้วต้นโทรมลงและยังโดนเพลี้ยเข้าทำลาย และไม่ผลิดอกให้ชม นี่คือปัญหาที่มือใหม่ที่ชื่นชอบไม้หนามกำลังหาคำตอบ แคคตัสและไม้อวบน้ำ
สิ่งที่มือใหม่ต้องทำความเข้าใจอันดับแรกก็คือ ลักษณะนิสัยของ แคคตัสและไม้อวบน้ำ ที่ต้องการดินร่วนระบายน้ำดี ไม่แฉะ มีแสงมาก พื้นที่ปลูกมีอากาศถ่ายเทดี หมั่นรดน้ำให้ปุ๋ยอยู่เสมอ และควรเปลี่ยนดินปลูกทุกปีเริ่มจาก
Step 1 เลือกภาชนะที่เหมาะกับขนาดต้น
Step 2 เตรียมดินปลูกใหม่ที่มีส่วนผสมของดินใบก้ามปูผุที่ร่อนแล้ว 1 ส่วน ทรายหยาบ 3 ส่วน ถ่านป่น 1 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน อาจผสมเพอร์ไลท์อีก 1 ส่วนเพื่อให้โปร่งระบายน้ำดี
Step 3 ใส่เศษกระถางแตกให้สูงประมาณ 1/3 ของความสูงกระถาง อาจใช้โฟมหัก ถ่านทุบ หรือหินภูเขาไฟเบอร์ 1 (ขึ้นอยู่กับขนาดกระถาง )
Step 4 ใส่ดินปลูกเล็กน้อย พร้อมโรยปุ๋ยเม็ดละลายช้าสูตรเสมอและสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช เพื่อเพิ่มธาตุอาหารและป้องกันแมลงเข้าทำลายทางราก วางต้นในกระถาง ใส่ดินรอบต้นจนเกือบถึงขอบภาชนะปลูก เขย่าเบาๆ เพื่อให้วัสดุปลูกแน่นขึ้น โรยปิดผิวดินด้วยกรวดขนาดเล็กหรือดินญี่ปุ่น รดน้ำให้ชุ่ม ทุก 2-3 วัน วางในที่มีแสงส่องถึง หลังจากย้ายปลูก 1-2 สัปดาห์ จะเริ่มแตกยอดใหม่
ข้อควรระวัง
- ในช่วงฤดูฝนไม่ควรวางต้นในตำแหน่งที่เป็นทางน้ำ ควรย้ายมาที่มีหลังคากันฝนจะดีกว่า เพื่อป้องกันต้นเน่าตาย
- หมั่นให้ปุ๋ยทุก 2-3 เดือนครั้ง จะช่วยให้แคคตัสและไม้อวบน้ำเติบโตได้ดีขึ้น พร้อมออกดอกให้ชม
- แคคตัสหลายสกุลออกดอกตามฤดูกาล เช่น ยิมโนคาไลเซียม แอสโตรไฟตัม โลบิเวียให้ดอกดกช่วงฤดูร้อนถึงฤดูฝน ส่วนแมมมิลลาเรียในดอกในฤดูหนาวถึงฤดูร้อน
- แคคตัสและไม้อวบน้ำเป็นพืชที่ต้องการแสงค่อนข้างมาก การนำต้นมาประดับตกแต่งภายในบ้าน ควรอยู่ในตำแหน่งที่มีแสงส่องถึง และควรยกออกให้ได้รับอากาศนอกบ้านทุกสัปดาห์ จะช่วยให้ต้นมีทรงพุ่มสวยงาม ไม่ยืดหาแสง
- สำหรับสกุลที่เลี้ยงง่ายและให้ดอกบ่อยเหมาะกับมือใหม่คือ สกุลแอสโตรไฟตั้ม (Astrophytum) สกุลยิมโนคาไลเซียม (Gymnocalycium) สกุลโลบิเวีย (Lobivia) สกุลแมมมิลลาเรีย (Mammillaria) และไม้อวบน้ำในกลุ่มเก๋ง (Stapeliad) ซึ่งมีดอกสวยงามหลายสี สกุลว่านหางจระเข้(Aloe) สกุลมะพร้าวทะเลทราย (Dorstenia) และยูโฟร์เบียฟรองซัวลูกผสม (Euphorbia francoisii) ที่ปลูกเป็นไม้กระถางได้ดี
สั่งซื้อหนังสือที่นี่
เรื่อง : วิฬาร์น้อย / ภาพ : สำนักพิมพ์บ้านและสวน
เรื่องที่น่าสนใจ