การปลูก ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ เป็นอีกหนึ่งวิธีทำเกษตรที่ได้รับความสนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรที่มีที่ดินว่างเปล่า และต้องการสร้างรายได้ในระยะยาว
ปัจจุบัน รัฐบาลได้กำหนดให้ไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ หลายชนิด สามารถใช้เป็นทรัพย์สินเพื่อเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้โดยสามารถนำมาค้ำประกันการกู้ยืมเงิน หรือขอสินเชื่อได้ ซึ่งมีจำนวน 58 ชนิดด้วยกัน
แต่การปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ การตัดโค่น การขนย้าย มีหลายจุดต้องอยู่ในข้อกำหนดของกฎหมาย เพื่อให้ถูกต้องตามหลัก ก่อนปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจจึงควรศึกษาทำความเข้าใจกันก่อน
ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ
ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ หมายถึง ไม้ยืนต้นทุกชนิด รวมถึงไผ่ ที่ปลูกหรือขึ้นเองทางธรรมชาติในพื้นที่นอกเขตอนุรักษ์ ที่มีการใช้ประโยชน์เนื้อไม้และผลผลิตที่ไม่ใช่เนื้อไม้ ใช้ประโยชน์ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นไม้ที่สามารถสร้างมูลค่าหรือแปรรูปได้ การปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจจึงเป็นการทำเกษตรลงทุนลงแรงในระยะยาว แต่ต้องใช้เวลายาวนานนับ 10 ปีจนกว่าจะเก็บเกี่ยวต้นไม้เพื่อจำหน่ายต่อไปได้ ไม้ต้นที่ปลูกจะให้ผลดีในหลายๆ ด้าน และส่งผลดีในแง่ของการเพิ่มออกซิเจน ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้ร่มเงาแก่สัตว์ต่างๆ ไปจนถึงทิ้งใบให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์แก่พื้นดิน
พื้นที่แบบไหน ปลูกไม้มีค่าเศรษฐกิจได้
พื้นที่ปลูกต้องเป็นที่ดินเอกชน ที่ดินเอกชน คือ ที่ดินที่ประชาชนมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินหรือกฎหมายอื่นๆ แบ่งเป็น 2 ประเภทคือที่ดินกรรมสิทธิ์ และที่ดินที่มีสิทธิครอบครอง แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
- ที่ดินกรรมสิทธิ์ คือที่ดินที่มีหนังสือสำคัญที่ดินประเภท โฉนดที่ดิน โฉนดแผนที่ โฉนดตราจอง ตราจองที่ตราว่าได้ทำประโยชน์ได้
- ที่ดินสิทธิครอบครอง คือที่ดินที่ยังไม่มีกรรมสิทธิ์ ได้แก่ น.ส.3 น.ส.3ก น.ส.3ข แบบหมายเลข 3 ใบเหยียบย่ำ ที่ดินที่มีหลักฐานการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1)
จำแนกกลุ่มไม้เศรษฐกิจตามการเติบโต
- ไม้โตเร็ว เติบโตมากกว่า 1.5 เซนติเมตร/ปี อายุตัดฟัน 5-15 ปี เช่น ไผ่ ยูคาลิปตัส สะเดาไทย กระทินเทพา
- ไม้โตปานกลาง เติบโต 0.8-1.5 เซนติเมตร/ปี อายุตัดฟัน 15-20 ปี เช่น สัก แดง ประดู่ ยางนา
- ไม้โตช้า เติบโต 0.8 เซนติเมตร/ปี อายุตัดฟัน 15-20 ปี เช่น รัง เต็ง ชิงชัน พะยูง กันเกรา มะค่าโมง จันทร์หอม ตะเคียนทอง
ก่อนปลูกต้องรู้วัตถุประสงค์
แค่ต้องการปลูกเพื่อสร้างรายได้อาจจะไม่เพียงพอ ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบก่อนเลือกชนิดไม้มีค่าทางเศรษฐกิจด้วย โดยเฉพาะวัตถุประสงค์ในการปลูก ซึ่งไม้ต้นแต่ละชนิดก็เหมาะสำหรับวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน
- เพื่อเป็นไม้แปรรูป : มะค่าโมง พยุง สัก ยางนา ยูคาลิปตัส สะเดาเทียม กระถินเทพา
- เพื่อเป็นไม้ฟืน : กระถินณรงค์ ขี้เหล็ก ยูคาลิปตัส มะฮอกกานี สะเดา
- เพื่ออุตสาหกรรมกระดาษ : ไผ่ ยูคาลิปตัส
- เพื่อเป็นอาหาร : ขี้เหล็ก สะเดา แค สะตอ
- เพื่อใช้เป็นสารสกัด : ราชพฤกษ์ สมอไทย มะเกลือ เสม็ด กฤษณา
นอกจากวัตถุประสงค์ในการปลูก ยังมีปัจจัยอื่นๆ ประกอบการพิจารณา ได้แก่ ลักษณะดิน ลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ไปจนถึงแหล่งรับซื้อหรือตลาดกรณีเพื่อการค้า สามารถตรวจสอบชนิดไม้ที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ได้ที่นี่
ปลูก ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ แบบไหนดี?
- ปลูกแบบเชิงเดี่ยว monoculture เป็นการปลูกที่ใช้ชนิดไม้เพียงชนิดเดียว จัดการง่าย มีค่าใช้จ่ายน้อย แต่มีข้อด้อยคืออาจจะเกิดโรคและแมลงระบาดทั้งพื้นที่ ใช้เวลานานในการรอผลผลิต ดินขาดธาตุอาหารและขนาดความหลากหลายทางชีวภาพ
- ปลูกแบบผสมผสาน Mixed Species plantation เป็นการปลูกไม้หลายชนิดผสมผสานเข้าด้วยกัน โดยคำนึงถึงรอบการตัดฟันของไม้ ได้แก่ไม้รอบตัดฟันสั้น ปานกลาง และยาว ข้อดีคือได้ผลิตหลายช่วงเวลา มีความหลากหลายทางชีวภาพ ข้อด้อยคือต้องเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะสมกับปริมาณแสง และมีการจัดการที่เหมาะสม
- ปลูกแบบวนเกษตร Agroforestry เป็นการปลูกไม้หลายชนิดผสมผสานกับพืชเกษตรและพืชสมุนไพร การลูกแบบนี้จะได้ผลตอบแทนในระยะสั้นจากพืชเกษตร ได้ผลตอบแทนระยะปานกลางจากพืชสมุนไพร และได้ผลตอบแทนระยะยาวจากไม้เศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องมีการจัดการอย่างดีเพื่อให้ได้ผลผลิตที่สม่ำเสมอ
การขอรับรองไม้ในที่ดินเอกชน
เพื่อจำแนกแหล่งที่มาของไม้ที่ถูกต้อง เพื่อความสะดวกในการนำไม้เคลื่อนที่จากที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง สะดวกในการส่งออกไม้ ผลิตภัณฑ์ไม้ และถ่านไม้ ทำได้ 2 วิธี คือ
1. การรับรองโดยเจ้าหน้าที่
แบ่งเป็น 3 กรณีด้วยกันคือ
- การออกหนังสือรับรองไม้ กรณีเคลื่อนย้ายในประเทศ ไม้ที่สามารถรับรองได้ คือไม้ที่ขึ้นในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน ไม้ต้องมีสภาพเป็นไม้ยืนต้น หรือไม้ท่อนที่ตัดแล้วแต่ยังไม่นำเคลื่อนที่ออกจากบริเวณตอ ในพื้นที่กรุงเทพยื่นคำขอได้ที่สำนักเศรษฐกิจการป่าไม้ ต่างจังหวัดยื่นคำขอได้ที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ในท้องที่ ศูนย์ป่าไม้ในท้องที่ หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ในท้องที่
- การออกหนังสือรับรองไม้ กรณีผลิตภัณฑ์ไม้และถ่านไม้เพื่อการค้า หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ได้แก่ ไม้ท่อน ไม้แปรรูป ไม้ล้อม ที่เป็นไม้ที่ขึ้นในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง หรือมีหลักฐานแสดงว่าได้มาโดยถูกกฎหมาย ผลิตภัณฑ์ไม้ต้องมีหลักฐานแสดงว่าได้มาโดยถูกกฎหมาย ถ่านไม้ต้องได้มาจากการเผา มีหลักฐานแสดงว่าได้มาโดยถูกกฎหมาย ในพื้นที่กรุงเทพยื่นคำขอได้ที่สำนักเศรษฐกิจการป่าไม้ ต่างจังหวัดยื่นคำขอได้ที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ในท้องที่ ศูนย์ป่าไม้ในท้องที่ หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ในท้องที่
- การขึ้นทะเบียนสวนป่า ผู้ทำสวนป่าสามารถนำที่ดินมาขึ้นทะเบียนเป็นสวนป่าได้ เมื่อมีการตัดฟันไม้ออกจากสวนป่าและนำเคลื่อนย้ายจะได้มีเอกสารหลักฐานเพื่อใช้กำกับควบคุมไม้ โดยกรมป่าไม้มีระบบสวนป่าออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวก ประชาชนสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองได้ที่นี่
2.การรับรองด้วยตัวเอง ประชาชนสามารถทำหลักฐานยืนยันความเป็นเจ้าของไม้ที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยจัดทำหนังสือรับรองตนเองว่าไม้ที่นำเคลื่อนย้ายเป็นไม้ที่ได้มาจากที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองของตน และให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านลงนามเป็นพยานในเอกสารรับรองต้นไม้
การตัดหรือโค่นไม้ในที่ดินเอกชน
- กรณีไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นส่วนป่า สำหรับไม้ทุกชนิดที่ขึ้นบนที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมาณกฎหมายที่ดิน ไม่เป็นไม้หวงห้าม สามารถตัดไม้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
- กรณีขึ้นทะเบียนเป็นสวนป่า จะต้องแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยยื่นคำขอสป.12 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกหนังสือรับรองการตัดหรือโค่น สป.13 ภายในวันที่รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ต้องออกไปตรวจสอบจำนวน ชนิดไม้ ตามที่แจ้งตัดหรือโค่น ก่อนรายงานผล ซึ่งผู้ทำสวนป่าต้องเก็บรักษาหนังสือรับรองเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี ตั้งแต่วันที่นำไม้เคลื่อนออกจากสวนป่า การเคลื่อนย้ายไม้จะต้องมีหนังสือ สป.15 และเจ้าหน้าที่รับรองถูกต้องกำกับไม้ท่อน ไม้แปรรูป ไม้ประดิษฐ์ก่อนจะนำเคลื่อนที่ และต้องมีรอยตราตี ตอก ประทับหรือแสดงความเป็นเจ้าของ และต้องทำสำเนา สป.15 มอบให้แก่ผู้รับโอนหรือผู้นำเคลื่อนที่ทุกครั้งที่มีการจำหน่าย หรือเคลื่อนไปยังสถานที่ค้า
ขอบคุณข้อมูลจาก
- คู่มือประชาชน การปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ในที่ดินเอกชนตามประมาณกฎหมายที่ดิน สำนักเศรษฐกิจป่าไม้ กรมป่าไม้,
- เอกสารเผยแพร่ “องค์ความรู้ในการส่งเสริม การปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ” สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้
เรื่อง : JKR
ภาพประกอบ : ไผ่ตง
อ่านเพิ่มเติม