หลายคนคงสงสัยว่า พืชไร่ พืชสวน ต่างกันอย่างไร อีกทั้งยังเข้าใจผิดเรียกสลับกันหลายครั้ง อย่าง องุ่นเป็นพืชสวนแต่เรียก “ไร่องุ่น” และต้นยางพาราเป็นพืชไร่ แต่เรียก “สวนยาง”
ทั้ง พืชไร่ พืชสวน ต่างกันอย่างไร นั้นสามารถจำแนกได้ในเรื่องของความหลายหลายของสายพันธุ์พืช ขนาดพื้นที่ปลูก ขั้นตอนกระบวนการผลิต รวมไปถึงการเก็บเกี่ยว โดยที่พืชไร่จะเน้นไปที่ปริมาณหรือจำนวนของผลผลิต แต่พืชสวนจะเน้นที่คุณภาพของผลผลิตมากกว่า
พืชไร่ หรือ Agronomy มาจากภาษากรีกสองคำ คือคำว่า agros แปลว่า ทุ่ง พื้นที่กว้าง และ nomos ที่แปลว่าการจัดการ ซึ่งก็หมายถึง พืชที่ปลูกในพื้นที่ที่มีขนาดกว้างใหญ่ ขั้นตอนการผลิตน้อย การดูแลไม่ต้องพิถีพิถันมากนัก เน้นไปที่ปริมาณของผลผลิตมากกว่าคุณภาพ รายได้ของผลผลิตไม่สูงมาก ผลผลิตที่ได้จะเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรม
พืชไร่ส่วนใหญ่มีความทนทานทั้งความร้อน และ ความแห้งแล้ง ต้องการน้ำน้อย เมื่อปลูกแล้วการดูแลให้น้ำให้ปุ๋ยแค่ในช่วงแรกของการเจริญเติบโตเท่านั้น เมื่อต้นพืชเติบโตได้สักระยะก็สามารถปล่อยให้พืชเติบโตเองตามธรรมชาติได้ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สับปะรด ยางพารา
แต่มีพืชไร่อยู่หนึ่งชนิดที่ต้องการน้ำมาก นั้นก็คือ “ข้าว” โดยทั่วไปแล้วข้าวจะปลูกในพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการเจริญเติบโต แต่ก็มีข้าวบางชนิดที่สามารถปลูกบนพื้นที่ดอนหรือที่สูงได้แล้วหรือที่เรียกกันว่า “ข้าวไร่”
อีกวิธีจำแนกระหว่างพืชไร่ พืชสวน ต่างกันอย่างไร คือ ผลผลิตของพืชไร่ส่วนใหญ่ต้องผ่านกระบวนการแปรรูป หรือต้องผ่านความร้อน (ทำให้สุก) ก่อนจึงสามารถนำมาบริโภคได้ และ ในบางชนิดไม่สามารถนำมาบริโภคสดได้ เนื่องจากจะเป็นพิษต่อร่างกาย ซึ่งพืชไร่จะแบ่งออกตามประโยชน์การใช้สอย สามารถแยกได้หลักๆ ดังนี้
1 I พืชไร่ พืชสวน ต่างกันอย่างไร : พืชน้ำตาล
พืชที่มีรสหวาน ผลผลิตของพืชในกลุ่มนี้สามารถนำมาสกัดหรือแปรรูปเป็นน้ำตาล เพื่อใช้บริโภคหรือใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งพืชน้ำตาลที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจได้แก่ อ้อย มะพร้าว ตาล และ พืชที่ให้ความหวานได้ดีอีกชนิดหนึ่ง คือ หญ้าหวาน เป็นพืชที่สามารถผลิตน้ำตาลได้สูง และ ความหวานที่ได้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
2 I พืชไร่ พืชสวน ต่างกันอย่างไร : พืชเส้นใย
พืชกลุ่มนี้ เช่น ปอ ฝ้าย เป็นสิ่งจำเป็นในการดำเนินชีวิต เนื่องจากผลผลิตของกลุ่มพืชเส้นใยสามารถสร้างเป็นเครื่องนุ่งห่ม เชือก หรือถักทอเป็นสิ่งที่เราต้องการได้
3 I พืชหัว
พืชที่ใช้ประโยชน์จากรากสะสมอาหารที่อยู่บริเวณใต้ดิน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเรียกรากที่สะสมอาหารว่า “หัว” มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก พืชหัวมักถูกนำไปแปรรูปเป็นแป้ง เช่น มันสำประหลัง หรือจะใช้ประกอบเมนูอาหาร เช่น มันฝรั่ง มันเทศ มันหวานญี่ปุ่น
4 I พืชอาหารสัตว์
พืชที่ปลูกในพื้นที่กว้างเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์โดยเฉพาะ มีทั้งรูปแบบสด หมัก และ ตากแห้ง เช่น หญ้า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และ พืชตระกูลถั่วบางชนิด
5 I พืชน้ำมัน
เป็นพืชที่ปลูกขึ้นเพื่อนำผลผลิตไปสกัดเป็นน้ำมันใช้บริโภค หรือใช้ประกอบอาหาร พืชในกลุ่มนี้ ได้แก่ ปาล์ม ถั่วเหลือง มะพร้าว งา
6 I ธัญพืชหรือพืชให้เมล็ด
พืชกลุ่มนี้เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความสำคัญ เพราะเป็นพืชกลุ่มที่ให้พลังงานแก่ร่างกายมนุษย์ อุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน ไขมัน ที่สะสมอยู่ในผลผลิตของพืชเหล่านี้ สามารถนำมาบริโภคเป็นอาหาร หรือแปรรูปเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ พืชในกลุ่มนี้ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด งา กาแฟ โกโก้ และ ถั่วพันธุ์ต่างๆ เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว เป็นต้น
- วิธีปลูกและแปรรูปโกโก้ให้มีคุณภาพ สู่ช็อกโกแลตของหวานที่นิยมไปทั่วโลก
- วานิลลา แมคคาเดเมีย กาแฟ 3 พืชเศรษฐกิจมูลค่าสูงจากโครงการพัฒนาดอย
พืชสวน เป็นเกษตรกรรมอย่างหนึ่ง ภาษาอังกฤษของคำว่าพืชสวน คือ Horticulture ซึ่งมาจากภาษาละตินสองคำ hortus แปลว่า “สวน” และ colere แปลว่า “การเพาะปลูก” พืชสวนโดยทั่วไปจะจำแนกออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ พืชผัก ไม้ผล ไม้ดอกและไม้ประดับ
พืชสวน คือ การปลูกพืชที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างพิถีพิถัน พื้นที่เพาะปลูกไม่จำเป็นต้องมีขนาดกว้างใหญ่ พืชสวนบางชนิดเพาะปลูกในโรงเรือนหรือภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม มีขั้นตอนและรายละเอียดในการปลูกมาก โดยจะเริ่มตั้งแต่การเพาะเมล็ด วิธีการเพาะ การเลือกวัสดุปลูก การเตรียมดิน ระยะปลูก การบำรุงให้น้ำให้ปุ๋ย การป้องกันกำจัดศัตรูพืช ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ แมลง เชื้อก่อโรค หรือสิ่งอื่นๆ ที่จะสร้างความเสียหายให้กับพืชของเรา
รวมไปถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งผลผลิตทางพืชสวนจะเน้นไปที่คุณภาพของผลผลิตมากกว่าปริมาณ มูลค่าของผลผลิตพืชสวนจะให้ผลตอบแทนมากกว่าพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นๆ และที่สำคัญพืชสวนจะใช้พื้นที่ปลูกไม่มากเมื่อเทียบกับพืชไร่
การจำแนกพืชสวนจะแบ่งตามการใช้งานหรือแบ่งตามวัตถุประสงค์ โดยการปลูกพืชนั้นสามารถนำมาใช้เป็นอาหารหรือใช้รักษาโรค รวมถึงใช้ในเรื่องของความสวยงาม
1 I พืชไร่ พืชสวน ต่างกันอย่างไร : พืชผัก
เป็นพืชที่ปลูกขึ้นมาเพื่อใช้รับประทาน มีทั้งรับประทานสดและนำไปประกอบอาหาร หรือใช้เป็นสมุนไพร ซึ่งคำว่าผักโดยทั่วไปก็คงจะนึกถึงพืชล้มลุกใบสีเขียว เช่น คะน้า ผักชี ผักสลัด กะหล่ำปลี ผักบุ้ง หรือพืชที่มีหัวอยู่ใต้ดินอย่าง แครอท หัวไซเท้า มันฝรั่ง แต่ความหมายที่แท้จริงของผัก คือ พืชที่เป็นส่วนประกอบของอาหาร ไม่ว่าจะเป็นส่วนของดอก ผล ใบ ลำต้น ราก หรือเมล็ด อย่างเช่นมะละกอหากใช้รับประทานในระยะผลสุก มะละกอก็จะจัดอยู่ในกลุ่มของผลไม้ แต่ถ้านำผลในระยะดิบมาประกอบอาหารก็จะมีความหมายตรงกับคำว่า “ผัก” นั่นเอง
2 I ไม้ผลหรือผลไม้
เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นพืชที่ปลูกขึ้นมาเพื่อใช้บริโภค เป็นพืชที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก ซึ่งไม้ผลมีหลากหลายชนิดมาก ถ้าหากจำแนกที่การเจริญเติบโตจะแบ่งได้ดังนี้ มีชนิดที่เป็นไม้ผลล้มลุก ได้แก่ แตงโม สตรอเบอร์รี่ แคนตาลูป ไม้ผลที่เป็นเถาเลื้อย อย่างเช่น องุ่น เสาวรส แก้วมังกร ไม้ผลที่มีพุ่มเตี้ย เช่น ฝรั่ง น้อยหน่า ส้ม รวมถึงไม้ผลยืนต้น เช่น ทุเรียน มังคุด มะม่วง ลำไย เงาะ
3 I ไม้ดอกและไม้ประดับ
พืชในกลุ่มนี้ปลูกขึ้นเพื่อใช้งานในด้านความสวยงาม หมายถึง การนำเอาส่วนต่างๆ ของพืชมาให้ประดับตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นส่วนของดอกหรือใบ และในบางครั้งอาจนำมาใช้ทั้งต้น พืชในกลุ่มไม้ดอกและไม้ประดับ จะมีทั้งพืชที่ปลูกในกระถาง พืชที่ปลูกคลุมดิน พืชที่ปลูกเพื่อใช้ตัดดอกหรือใบ พืชที่ปลูกเพื่อใช้ในการตกแต่ภูมิทัศน์
การทำสวน ไม่ว่าจะเป็นสวนผัก สวนผลไม้ หรือสวนดอกไม้ ต้องมีการลงทุนก่อนการเพาะปลูกเป็นจำนวนมากในทุกขั้นตอนของการทำสวน ไม่ว่าจะเป็นซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ปุ๋ย ยา หรือเครื่องทุนแรง เครื่องจักรกลต่างๆ แต่ผลผลิตที่ได้นั้นมีมูลค่าสูงเมื่อเทียบกับพื้นที่เพาะปลูก ผลผลิตทางพืชสวนส่วนใหญ่จะเป็นผลผลิตสด ซึ่งต้องระมัดระวังในการเก็บเกี่ยว รวมไปถึงต้องมีการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวที่ดี เพื่อลดความเสียหายของผลผลิต หากผลผลิตสูญเสียมากมูลค่าของผลผลิตก็จะลดลง