Young Smart Farmer โครงการดีๆ ที่เกษตรกรยุคใหม่ต้องรู้ เพราะ เกษตรกรไทยส่วนใหญ่ยังประสบปัญหาในการพัฒนา และต่อยอดอาชีพ หลายคนมองว่าเกษตรกรรมเป็นงานหนัก ต้องอาศัยความอดทนสูง ซึ่งในอดีตเป็นความจริง เนื่องจากเกษตรกรรุ่นก่อนต้องทุ่มเทแรงกายอย่างมากเพื่อให้ได้ผลผลิต
ปัจจุบัน โครงการ Young Smart Farmer (YSF) ภายใต้การสนับสนุนของกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รวมกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในภาคการเกษตร เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้ก้าวหน้าขึ้น การเรียนรู้ด้วยตนเองอาจต้องผ่านการลองผิดลองถูกเป็นเวลานาน บางคนใช้เวลาไม่นานนัก แต่ก็มีอีกหลายคนที่ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะค้นพบแนวทางที่เหมาะสม
การสร้างองค์ความรู้ และเครือข่ายเกษตรกรจะช่วยลดอุปสรรคเหล่านี้ โดยเฉพาะ เมื่อเกษตรกรรุ่นใหม่สามารถนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ โครงการ YSF จึงเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับภาคเกษตรกรรมไทยให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Young Smart Farmer คืออะไร?
Young Smart Farmer คือ เกษตรกรรุ่นใหม่ที่ผ่านการประเมินคุณสมบัติ มีการบริหารจัดการเกษตรด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ และ นวัตกรรมในเชิงผู้ประกอบการเกษตร สามารถพึ่งพาตนเอง เชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกร และ เป็นผู้นำทางการเกษตรในท้องถิ่นที่สามารถถ่ายทอดความรู้ไปยังผู้อื่นได้
โครงการ YSF อยู่ภายใต้การดำเนินงานของกรมส่งเสริมการเกษตร และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมเกษตรกรรุ่นใหม่ให้มีความรอบรู้รอบด้าน พร้อมปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน

ข้อดีของ Young Smart Farmer
หลายคนเลือกประกอบอาชีพเกษตรกร เพราะใจรัก ชื่นชอบการปลูกพืช ผัก ผลไม้ หรือดอกไม้ ได้เห็นการเจริญเติบโตตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเก็บเกี่ยว อย่างไรก็ตาม หากทำเกษตรเพียงลำพัง อาจต้องลองผิดลองถูกหลายครั้งกว่าจะประสบความสำเร็จ แต่การเข้าร่วมโครงการ YSF มีข้อดีดังนี้:
- ได้แลกเปลี่ยนความรู้กับเกษตรกรในกลุ่ม ทั้งด้านเทคนิค เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิต
- เชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกร ทำให้รู้จักกันมากขึ้น เข้าใจว่ามีใครทำอะไร ปลูกพืชชนิดใด และมีแนวทางการเพาะปลูกแบบไหน
- สร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร พร้อมร่วมกันหาช่องทางการตลาด ยกระดับสู่การเป็นผู้ประกอบการเกษตรรุ่นใหม่
- เข้าร่วมกิจกรรมอบรม ศึกษาดูงาน เพื่อพัฒนาตนเองและพัฒนาผลผลิตหรือสินค้าทางการเกษตร
การสร้างองค์ความรู้ และเครือข่ายเกษตรกรจะช่วยลดอุปสรรคในการทำเกษตร โดยเฉพาะเมื่อเกษตรกรรุ่นใหม่สามารถนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ โครงการ YSF จึงเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับภาคเกษตรกรรมไทยให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การสมัครเป็น YSF
คุณสมบัติของ YSF คือเป็นเกษตรกรหรือทำเกษตร มีความมุ่งมั่นตั่งใจในการทำเกษตร เพื่อต้องการพัฒนาศักยภาพและ คุณภาพของตนเอง มีความสมัครใจเข้าร่วมโครงการ และ ต้องเข้าร่วมกิจกรรมตลอดระยะเวลาโครงการ และ ต้องมีอายุระหว่าง 17-45 ปี ที่สำคัญต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดยติดต่อสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่ เพื่อขึ้นทะเบียนเกษตรกร และ ขอเข้าร่วมโครงการ YSF หลังจากนั้นจะมีการจัดกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยเน้นให้เกษตรกรรุ่นใหม่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และ ออกแบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรเป็นผู้จัดการเรียนรู้
เอกสารที่ใช้สมัคร
- ใบสมัคร ติดต่อได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัด หรือสามารถดาวน์โหลดได้ที่ Link นี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนเกษตรกรหรือใบรับรองการขึ้นทะเบียนเกษตรกร
การขึ้นทะเบียนเกษตรกร สามารถทำได้โดยการแจ้งคำร้องกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีหน่วยสนับสนุนเกษตรกรอยู่ โดยมีเงื่อนไขอยู่ว่าต้องทำการเกษตรอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ มากกว่าหนึ่งในเงื่อนไขดังต่อไปนี้ คือ
- นาข้าวพื้นที่ 1 ไร่
- ปลูกพืชไร่ในพื้นที่ 1 ไร่
- แปลงผัก 1 งาน
- สวนผลไม้หรือไม้ยืนต้น 1 ไร่
- สวนไม้ดอก 1 งาน
- เพาะเห็ดหรือผักงอกในพื้นที่ 30 ตารางเมตร
- ปลูกพืชในโรงเรือนพื้นที่ 72 ตารางเมตร
- ทำการเกษตรผสมผสาน 1 ไร่
- นาเกลือ 1 ไร่
- แมลงเศรษฐกิจ 10 ถึง 20 รัง (แล้วแต่ชนิดแมลง)
- สวนป่าหนึ่งไร่จำนวน 100 ต้น
ถ้าหากไม่สะดวกที่จะเดินทางไปติดต่อเจ้าหน้าที่ สามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Link นี้
และ การขึ้นทะเบียนเกษตรกรยังมีเงื่อนไขอีกว่า ในหนึ่งครัวเรือนจะได้ทะเบียนเกษตรกรหนึ่งเล่มเท่านั้น โดยจะมีหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกร 1 คน ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหัวหน้าครัวเรือนตามทะเบียนบ้าน ส่วนสมาชิกในบ้านคนอื่นที่ประกอบอาชีพเกษตรกร ก็สามารถเป็นสมาชิกในครัวเรือนเกษตรได้
ในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะมีหน่วยงานเกษตรแบ่งเป็น 4 พื้นที่ดังนี้ สำนักงานเขตพื้นที่ 1 (มีนบุรี) สำนักงานเกษตรพื้นที่ 2 (ลาดกระบัง) สำนักงานเกษตรพื้นที่ 3 (ตลิ่งชัน) สำนักงานเกษตรพื้นที่ 4 (ทวีวัฒนา)

การพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เป็น YSF
นอกจากคุณสมบัติที่ครบถ้วนตามเกณฑ์แล้วผู้ที่จะเป็น YSF จะต้องผ่านกระบวนการพัฒนา ผ่านการอบรม ทำกิจกรรม และประเมินความพร้อมก่อนที่จะเป็น YSF อย่างเต็มตัว โดยกระบวนการพัฒนามีดังนี้
- การจัดทำแผนชีวิต เริ่มจากการสร้างแรงจูงใจในการทำเกษตร เน้นให้เกษตรกรรุ่นใหม่มีความสามารถในด้านการเกษตรที่ทดแทนเกษตรกรรุ่นเก่าได้ มีแนวคิดและการปฏิบัติที่ต่างไปจากเดิม เริ่มตั้งแต่การผลิต การแปรรูป การตลาดและการวางแผนธุรกิจเกษตร ค้นหาความต้องการของตนเองว่าอยากที่จะทำอะไร
- แลกเปลี่ยนความรู้ ระหว่างเกษตรกรรุ่นใหม่กับพี่เลี้ยง หรือ เพื่อนๆเกษตรกรท่านอื่น เรียนรู้จากต้นแบบ ศึกษาดูงานและ ลงมือปฏิบัติจริง
- การเชื่อมโยงเครือข่าย ที่เน้นในเรื่องการมีส่วนร่วม การแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงความรู้ การใช้เทคโนโลยี และ กิจกรรมทางการเกษตรตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการตลาด
- การประเมินศักยภาพ หลังจากที่ผ่านกระบวนการพัฒนาแล้ว เกษตรกรรุ่นใหม่จะได้รับการประเมินคุณสมบัติการเป็น YSF เริ่มจากคุณสมบัติด้านรายได้ คือ ในครอบครัวต้องมีรายได้รวมทางการเกษตรไม่น้อยกว่า 180,000 บาท ต่อ ปี มีความรู้ในเรื่องที่ทำอยู่ มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ มีการบริหารจัดการผลผลิตและการตลาด มีความตระหนักรู้ถึงคุณภาพสินค้าและความปลอดภัยของผู้บริโภค มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม และ คุณสมบัติข้อสุดท้าย คือมีความภูมิใจในความเป็นเกษตรกร
เรื่อง : สรวิศ บุญประสพ
อ้างอิง : กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ข้อคิดจากอดีตวิศวะ…ที่อยากให้รู้ ก่อนลาออกจากงานประจำมา ทำเกษตร