โครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย
นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ และคุณวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ ที่ตั้งใจอยากสร้างพื้นที่เกษตรกรรมที่เป็นมิตรต่อทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และสภาพแวดล้อม โดยเริ่มจากค่อยๆพลิกแผ่นดินขนาดใหญ่รอบสนามบินสุโขทัยจากเดิมที่เป็นทุ่งโล่ง ด้วยการทดลองปลูกข้าวโดยไม่ใช้สารเคมีบนพื้นที่ 3 ไร่ในปี 2542 โดยระยะแรกแบ่งพื้นที่เป็นแปลงๆให้ชาวบ้านทดลองปลูก แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไรนัก เพราะชาวบ้านยังคงยึดติดกับระบบการเพาะปลูกที่ต้องใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง จึงต้องหันกลับมาศึกษาใหม่ โชคดีที่ระหว่างนั้นได้รับการช่วยเหลือจาก อาจารย์สมเดช อิ่มมาก ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาสายพันธุ์ข้าว มาช่วยพัฒนาพันธุ์ข้าวเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและเป็นสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพธรรมชาติของโครงการ จากบทเรียนและการได้ลงมือปฏิบัติช่วยให้โครงการพร้อมสำหรับการก้าวสู่ระบบเกษตรแบบอินทรีย์อย่างเต็มรูปแบบในปี 2549 ภายใต้ชื่อ โครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย
เราเดินทางมาสู่อาณาจักรเกษตรที่รายล้อมไปด้วยทุ่งนาสีเขียว แปลงผัก บึงน้ำขนาดใหญ่ และสวนผลไม้ คุณศุทธาวดี เจริญรัถ ผู้จัดการโครงการ ได้อาสาพาเดินชมรอบๆ ที่นี่ข้าวทุกเมล็ด ผักทุกต้น น้ำ ดิน และอากาศไร้ซึ่งสารพิษ เป็นความสุขท่ามกลางธรรมชาติ ทุกคนทำงานในนี้ก็มีความรู้สึกเดียวกันและเชื่อว่าปลายทางผู้บริโภคก็ย่อมมีความที่จะได้รับประทานอาหารดีๆ
หลักๆที่นี่เด่นเรื่องพันธุ์ข้าวและการอนุรักษ์วิธีการทำนาแบบดั้งเดิม เรามีพันธุ์ข้าวของเราเอง โดยใช้การคัดเลือกพันธุ์ข้าวด้วยการวางรวง หลังจากเก็บเกี่ยว ขั้นตอนต่อไปจะนำข้าวมากะเทาะเปลือกที่โรงสีขนาดเล็กซึ่งตั้งอยู่ภายในโครงการเอง เมื่อสีเสร็จก็คัดแยกคุณภาพ ก่อนส่งต่อไปบรรจุถุงอย่างพิถีพิถัน การันตีคุณภาพและรับรองมาตราฐานผลิตภัณฑ์อินทรีย์ของไทย จากกรมวิชาการเกษตรและสหกรณ์
จากการพูดคุยนี้ทำให้เรารู้ว่าการกินอยู่อย่างเรียบง่าย บริโภคพืชผักตามฤดูกาลถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ทำให้การเกษตรแบบอินทรีย์มีความยั่งยืน ซึ่งคุณศุทธาวดีให้มุมมองเรื่องนี้อย่างน่าสนใจว่า “การทำเกษตรอินทรีย์นั้นไม่มีคำว่านอกฤดู ต้องเป็นฤดูนั้นถึงจะได้กิน ผักและผลไม้สดๆจะอร่อยก็เพราะเป็นช่วงเวลาของมัน แต่คนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าถ้าเดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วจะต้องมีทุกอย่าง ทำให้เกิดดีมานด์กับซัพพลาย คนขายพยายามหาของมาขายจนต้องหันไปใช้เคมี เร่งผล เร่งดอก ให้พืชเติบดตนอกฤดูเพื่อให้มีขายตลอดปี หรือบางทีหลอกกันว่าอันนี้คืออินทรีย์ ฉะนั้นขอเพียงผู้บริโภคเข้าใจธรรมชาติ ส่วนคนปลูกต้องมีความซื้อสัตย์ ผลดีจะเกิดขึ้นทั้งระบบ”
“คนที่อยากเริ่มต้นทำเกษตรอินทรีย์ คุณต้องคิดถึงเศรษฐกิจของพระเจ้าอยู่หัว ทำแบบพอดีสามารถควบคุมได้ ปบ่งส่วนหนึ่งไว้กิน แบ่งส่วนหนึ่งสู่ตลาด ถ้าคุณมีน้อยก็ต้องรวมกลุ่มกัน และต้องรู้จักพลิกแพลงแปรรูปวัตถุดิบเพื่อเพิ่มมูลค่าและทางเลือกให้ลูกค้า ให้วัตถุดิบ อย่างการนำใบข้าวที่ได้จากการเพาะกล้ามาปั่นทำน้ำคลอผดรฟิลล์และทำชาใบข้าวหอม”
ใครที่สนใจต้องการไปเที่ยวชมงาน โครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัยพร้อมต้อนรับ มีโฮมสเตย์ไว้บริการ ไม่แน่ว่าการได้มาสูดอากาศดีๆ ได้กินข้าวหอมอร่อยๆ และได้ลองทำกิจกรรมตามวิถีแห่งความเรียบง่าย อาจเปลี่ยนแนวคิดของคณได้อย่างสิ้นเชิง
จากหนังสือ : The Organic Way
เขียน : อิศรา แพงศรี, ธารตะวรรณ ผ่องใส, ภัทรภร ยอดนครจง
ภาพ : ธนกิตติ์ คำอ่อน, ปรัชญาจันทร์คง
เรียบเรียง : ภาสกร เจยาคม