ใครหลายคนก็คงจะชื่นชอบกับการตื่นแต่เช้ามาเก็บผักสดๆ จากแปลงข้างบ้านไปทำอาหาร ไม่ต่างจาก คุณกบ – รมิดา คุณารักษ์ ผู้ที่ทำ สวนครัวทำเอง ปลูกผักทานเอง ตั้งแต่ตอนที่อาศัยอยู่กรุงเทพฯ จนได้โอกาสทำบ้านหลังที่ 2 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้นำพาชีวิตตัวเองเข้าสู่วิถี From Farm to Table ในรูปแบบ ของ Farm Reuse อย่างเต็มตัว
คุณกบ เจ้าของ สวนครัวทำเอง จากวัสดุเหลือใช้ เล่าว่า “เราเป็นคนที่ชอบต้นไม้ และบ้านอยู่ในเมืองกรุงฯ มีพื้นที่ไม่เยอะก็จะปลูกผักสวนครัวที่พอจะปลูกได้ อย่าง ตะไคร้ พริก โหระพา โดยปลูกผักตามที่ตัวเองชอบนำมาทำอาหารทานเอง จนเกิดเป็นความชอบติดตัว พอย้ายมาอยู่ จ.เชียงใหม่ ก็เลือกที่ติดแม่น้ำปิง ซึ่งตอบโจทย์เรื่องของการปลูกผัก เพื่อให้ซื้อวัตถุดิบในการทำอาหารให้น้อยที่สุด และเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ รวมถึงใช้ของเก่าต่างๆ มาเป็นวัสดุอุปกรณ์ในการทำแปลงผัก สู่ การทำ Farm Reuse”
แน่นอนว่าการปลูกผักก็ต้องมีภาชนะสำหรับปลูก คุณกบ ก็ได้ใช้วัสดุเหลือใช้จากชุมชนไม่ว่าจะเป็น ลิ้นชักเก่านำมาปลูกซอเรล ถังน้ำเก่าที่เต็มไปด้วยสะระแหน่ รวมถึงลังไม้เก่ามาประกอบเข้ากับจักรยานเก่าพร้อมกับปลูกผักหลากหลายชนิด ที่พอใครมาเห็นก็อยากจะเอาของที่เก่าภายในบ้านมารีบปลูกผักโดยทันที เพราะใช้ประโยชน์ได้แล้วยังดูสวยงามอีกด้วย
และนอกจากการปลูกผักที่นำวัสดุเหลือใช้จากชุมชนมาก่อให้เกิดประโยชน์แล้ว ก็ยังมีการใช้ปุ๋ยธรรมชาติจากภายในบ้าน เทคนิคการตัดผักให้ดูสวยอยู่ตลอด และการเลี้ยงไก่ด้วยเศษอาหาร ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอยู่ภายในบริเวณบ้านของ คุณกบ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่อยากปลูกผัก
ครั้งนี้ทีมบ้านและสวน Garden & Farm เลือกรูปแบบการเดินทางสู่จังหวัดเชียงใหม่ด้วยการ Road Trip ไปกับ SUV คู่ใจ อย่าง BMW X7
นอกจากความสวย มีสไตล์ทั้งภายนอกและภายใน ความปลอดภัยมาตรฐานแบบ BMW ยังทำให้เรามั่นใจในทุกเส้นทางการขับขี่ ไม่ว่าจะต้องลัดเลาะในถนนที่คดเคี้ยว เส้นทางผ่านชุมชนบางจุดที่แคบ หรือจุดลาดชันที่ต้องไต่ระดับความสูงขึ้นสู่อำเภอสันทราย ในที่สุดเราก็ถึงที่หมาย บ้านเล็ก ในบริบทที่แสนอบอุ่น ของคุณกบแห่งนี้
ศึกษาการปลูกผักจนเป็นไลฟ์สไตล์
คุณกบ ได้ศึกษาการปลูกผักหลากหลายชนิด โดยจะเน้นเลือกปลูกพืชผักที่ทานเอง พอเหลือก็แบ่งปันให้กับคนอื่น
“เราชอบเข้าไปดูเกี่ยวกับการปลูกผัก การเลี้ยงสัตว์ การท่องเที่ยว สารคดีทำอาหาร และดนตรี ดูอยู่แค่นี้ เหมือนว่าเราก็ค่อยๆ ศึกษาและซึมซับไป โดยจะเน้นการปลูกผักที่ไม่ใส่สารเคมีเป็นอันดับแรก จากนั้นก็เริ่มศึกษาว่าผักตัวไหนที่ไม่ชอบแดดจัด ตัวไหนชอบน้ำไม่ชอบน้ำ พอปลูกไปแล้วก็ให้สังเกตจากอาการของผัก ถ้าต้นไหนมันแกรน ก็ให้เปิดกูเกิลเพื่อหาข้อมูล เข้าตามเพจที่ปลูกผัก เข้าไปคุยและถามในกลุ่ม”
“ผักสลัดมีทั้งหมด 5 แปลง ทานคนเดียวไม่หมดอยู่แล้ว เวลาใครมาที่บ้านก็จะได้ของติดมือไป เราได้แบ่งปันผักที่มันปลอดสารพิษจริงๆ คนที่ได้ก็จะแฮปปี้ และเขาก็สนุกกับการที่ได้ลงไปตัดผักเอง คนชอบถามว่าอยู่คนเดียวทำไมปลูกเยอะขนาดนี้ เรามีความรู้สึกว่า หนึ่งเลยปลูกแล้วมันสวย สองเราได้แบ่งปัน บางคนเขาอยากปลูกแต่เขาไม่มีพื้นที่ ไม่มีเวลา เราก็จะได้แบ่งปันให้เขาด้วย”
ปุ๋ยธรรมชาติจากภายในบ้าน
“ปุ๋ยที่ใช้มีเพียงแค่มูลวัวและมูลไก่ เพราะ เราตั้งใจว่าจะไม่ใช้เคมีเลย ไม่ว่าจะปุ๋ยน้ำปุ๋ยเกล็ด ฮอร์โมนก็จะไม่ใช้เลย เพียงแค่คิดว่าอยากทำอะไรที่มันง่ายๆ ซึ่งสิ่งที่สำคัญมากๆ คือ การดูแมลงช่วงเช้า ตอน 7.00-9.00 น. พอเจอก็เอาน้ำฉีดแรงๆ ให้กระเด็นหลุดไป หรือถ้าอาการมันแย่จริงๆ ก็จะใช้ยาเส้นที่ชาวบ้านปลูกอยู่แถวนั้น เอามาแช่น้ำเอาไว้ แล้วก็สเปรย์ฉีด”
“เราก็ไปเก็บมูลไก่จากในกรงไปตากแดดจนแห้งสนิท แล้วก็ทำให้ร่วน เก็บใส่กระป๋องเอาไว้ ไม่ได้มีการหมักอะไร พอเวลาใช้ก็ใส่เพียงนิดเดียวเป็นประจำทุกอาทิตย์ ปริมาณที่ใช้ประมาณ 2 กำมือ ต่อแปลง ขนาด 1×4 เมตร พอครบเดือนครึ่ง เราก็ถอนต้นเก่าและปลูกต้นใหม่ต่อได้เลย เพราะในหว่างที่ปลูกเราก็ปรุงดินอยู่ทุกอาทิตย์อยู่แล้ว แต่พอครบ 3 เดือน จะยกแปลง ตากดิน 1 อาทิตย์ จากนั้นก็ปรุงดินใหม่และให้หมักทิ้งไว้อีก 1 อาทิตย์ จึงค่อยปลูกได้”
“วัตถุดิบที่ใช้ปรุงดิน จะใช้หน้าดินที่อยู่ติดกับแม่น้ำปิง เนื่องจากหน้าดินจะมีความอุดมสมบูรณ์มากกว่าดินที่อยู่ชั้นด้านล่าง โดยใช้ปริมาณ 1 ส่วน ผสมกับดินถุง 1 ส่วน ใบก้ามปูแห้ง 1 ส่วน ขี้ไก่ 1 ส่วน แกลบดำ 1 ส่วน และขุยมะพร้าว ครึ่งส่วน แต่ขุยมะพร้าวต้องเอามาแช่น้ำไว้ 1 คืนก่อน แล้วนำส่วนผสมทั้งหมดหมักทิ้งเอาไว้บนแปลง 1 อาทิตย์ จากนั้นก็ลงมือปลูกได้เลย”
ตัดผักให้แปลงยังดูสวยอยู่ตลอด
“เวลาตัดผักจะไม่ได้ตัดมากินทั้งต้น แต่จะตัดเฉพาะใบล่างๆ โดยตัดต้นละ 3-4 ใบมากิน ก็จะทำให้แปลงผักยังสวยอยู่ พอถึงระดับหนึ่งก็จะรู้สึกว่าใบใหม่ของผักไม่ใหญ่แล้วก็ค่อยถอนออก”
“ส่วนผักเคลอยู่ได้เป็นปี เลยเอาเคลไปปลูกลงในกระถาง เพราะเวลาปลูกลงแปลง แล้วพอถึงเวลารื้อแปลงผักก็จะดูไม่สวยเพราะระดับต้นไม้ในแปลงมันไม่เท่ากัน”
From Farm to Table
คุณกบ เป็นคนที่ชอบทำอาหารซึ่งเมนูที่ชอบมาก คือ พิซซ่าหน้าแฮมสไตล์เม็กซิกันจากสวนผักข้างบ้าน
“พิซซ่าหน้าแฮม จะทำเป็นสไตล์เม็กซิกัน โดยใช้พริกเม็กซิกันที่มีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย และมะเขือเทศพันธุ์เรดฮันนี่ ที่ให้รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน หลักๆ จะใช้เป็น 2 ส่วนนี้ในการทำพิซซ่า หรือบางทีทำพิซซ่าหน้าไก่เทอริยากิจะใช้ ขึ้นฉ่าย ต้นหอมญี่ปุ่น แล้วโรยด้วยโรสแมรี่ พาร์สรีย์”
“นอกจากพิซซ่าก็มีไก่เมืองอบสมุนไพรไทยมิกซ์สมุนไพรฝรั่ง โดยสมุนไพรไทยที่ใช้เป็น ข่า ขมิ้น ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม นำมาบดให้ละเอียดและยัดเข้าไปในตัวไก่ ส่วนด้านนอกของไก่จะอบด้วย สมุนไพรฝรั่งอย่าง ทารากอน โรสแมรี่ และพริกเม็กซิกัน พออบเสร็จไม่ต้องใช้น้ำจิ้มเลย เพราะด้วยรสชาติของเครื่องเทศและสมุนไพรต่างๆ ทำให้รสชาติที่ได้อร่อยมาก”
Farm Reuse วัสดุเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์
“เราอยากใช้ชีวิตหลังเกษียณโดยใช้เงินให้น้อยที่สุด เลยไปหาของเก่าจากจุดทิ้งของเก่าในหมู่บ้านมาใช้ ก็เอามาต่อเป็นรถใส่กระบะ ซึ่งก็เข้ากับธีมของบ้านที่เป็นกึ่งวินเทจกึ่งลอฟท์ได้ดี และยังช่วยลดขยะได้อีกด้วย โดยมีนายช่างจากตอนที่มาทำบ้านให้ ก็มาช่วยประกอบของต่างๆ ให้”
“พอชุมชนในหมู่บ้านเขาเห็น เขาก็มาถามว่าที่บ้านมีแบบนี้คุณกบเอาไหม เอาไว้ที่บ้านก็ไม่สวยแล้ว แต่พอเอามาแต่งแบบนี้ก็สวยเลย หลายคนที่มาเห็นก็ชอบด้วย อยากกลับไปทำแบบนี้บ้าง เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ว่าปลูกผักกินบ้านน่าอยู่สามารถทำได้นะ ไม่ใช่ว่าปลูกอย่างเดียวบ้านก็สามารถสวยได้ด้วย”
“เนื่องจากที่บ้านมีไม้ไผ่อยู่เยอะก็เลยเอาทำแปลงผัก ทำค้างให้ต้นบวบ ต้นมะเขือเทศ และอะไรที่เหลือจากการสร้างบ้านตอนแรกจะไม่ทิ้งเลยนำมาใช้ทั้งหมด กระบวยรดน้ำ ก็ให้นายช่างใช้วัสดุที่หาได้จากที่บ้านมาทำ เรียกได้ว่า อุปกรณ์ปลูกผักแทบจะไม่ได้ซื้ออะไรเลย ทำเองกันหมดเลย”
เลี้ยงไก่ด้วยเศษอาหารจากการทำอาหาร
“ไก่ไข่ที่เลี้ยงเป็นสายพันธุ์เยอรมัน มีทั้งหมด 4 ตัว เพื่อให้เพียงพอสำหรับทานคนเดียว ซึ่งช่วงแรกที่เลี้ยงก็ให้เป็นอาหารเม็ดทั่วไป แล้วเราก็ค่อยๆ ปรับให้เขาทานผักที่เราปลูกได้ด้วย กลายเป็นว่าไก่ที่บ้านผักที่ชอบที่สุด คือ ผักเคล น้องไก่ชอบมาก แล้วอาหารมื้อไหนที่มีเศษอาหารจากการทำอาหารก็เอามาแบ่งให้ไก่กินด้วย”
รู้จักกับกุหลาบมากขึ้น
“ที่กรุงเทพฯ ปลูกกุหลาบไว้เยอะมากแต่โตไม่ค่อยดี เพราะโดนต้นไม้ใหญ่บังแสงหมด พอปลูกไปสักพักดอกก็เริ่มเล็กลงสุดท้ายก็ตาย มันก็เลยฝังใจว่าจะต้องปลูกให้ได้ พอมาอยู่เชียงใหม่ก็แก้มือปลูกกุหลาบจนสำเร็จได้”
“เพราะกุหลาบชอบแสงแดดเต็มวัน เพียงแค่มีสถานที่อากาศปลอดโปร่ง และเสริมด้วยปุ๋ยมูลวัว ซึ่งเอาจริงๆ ปลูกที่เชียงใหม่ใส่ใจน้อยกว่าที่กรุงเทพฯ แต่กลับงามกว่าอย่างเห็นได้ชัด มันทำให้เราลบล้างความคิดเดิมๆ ออกไปที่ว่า ปลูกกุหลาบต้องใส่ใจ ต้องดูแลเป็นพิเศษ”
แคมป์กองไฟ
“ด้วยความที่บ้านกรุงเทพฯ มีความเป็นล้านนา แล้วพอมาเมืองเหนือก็อยากให้ที่นี่มีความแตกต่าง จึงให้ที่นี่มีความเป็นบ้านสไตล์อังกฤษ และมีกองไฟสำหรับหน้าหนาว ไว้ปิ้งข้าวจี่ ข้าวโพด ข้าวเกรียบ พอถึงช่วงนั้นมันได้ฟีลมากๆ”
ครอบครัวบ้านสบแฝก
ซึ่งสถานที่ คุณกบ อาศัยอยู่มีชื่อว่า ชุมชนบ้านสบแฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เป็นที่ที่ชาวบ้านภายในชุมชนนั้นอยู่กันแบบครอบครัว มีอะไรก็แบ่งปันและช่วยเหลือกัน
“ชุมชนที่อยู่เป็นวิถีของชุมชนจริงๆ ใช้เงินซื้อกับข้าวกันค่อนข้างน้อย อย่างช่วงที่ไม่อยู่บ้าน พี่สาวของผู้ใหญ่บ้านจะมาช่วยดูแลรดน้ำพืชผัก ให้อาหารไก่ และให้เขาเก็บผักและไข่ของเราไปทานได้ ไม่หวง เพราะปล่อยไว้ผักก็จะเสียหายซะเปล่าๆ พอเก็บแล้วเขาก็ปลูกให้เราเพิ่มอีกด้วย”
“การที่เรามาอยู่ที่นี่เหมือนว่าเราได้มีครอบครัวมาอยู่ด้วย เพราะเราไปคนเดียวไม่รู้จักใครเลย แต่ปรากฏว่าเราไม่เหงา เรามีคนมาทานข้าวด้วย เรามีเพื่อนที่ทำสวนไปด้วยกัน”
แรงบันดาลใจสู่อีกใจ
“มีหลายๆ คนไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร มีความไม่กล้า อยากให้ทุกคนคิดว่า เราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ในการเริ่มต้น แค่นับหนึ่งแล้วเราไม่ทิ้งจุดมุ่งหมายของเรา ภาพฝันเราต้องชัด อยากให้ทุกคนได้ลองปลูกผักทานเอง เยอะบ้าง น้อยบ้าง ให้ทำตามที่ทุกคนถนัด และมันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น แล้วพอเราได้ปลูกผักทำอาหารทานเอง สุขภาพร่างกายของเราก็จะดีขึ้น รวมถึงได้พักจิตใจไปกับพืชผักที่เราปลูกไว้ด้วย จนเราสามารถสัมผัสมันได้” คุณกบ กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากปลูกผักทานเองจะได้ประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจแล้ว การนำวัสดุเหลือใช้มาปัดฝุ่น ก็เป็นการเตรียมของเก่าให้กลับมาเป็นของใหม่กับสิ่งใหม่ได้อีกครั้ง
เรื่อง : กิตตินัย อัศวเลิศลักษณ์
ขอขอบคุณ : BMW Barcelona Motor
เยี่ยม บ้านเจ้าชายผัก กับการทำเกษตรแบบไบโอไดนามิก
สวนวานิลลาข้างบ้าน กิจกรรมไม่เล็กภายในครอบครัว ที่มีต้นวานิลลากว่า 1,000 ต้น