อาซาอิ พืชมาแรง ผลอร่อย มากประโยชน์ น่าลองปลูกในไทย

ผลไม้ชื่อแปลก อย่าง อาซาอิ (Acai) กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ด้วยกระแสของคนรักสุขภาพที่สรรหาเมนูอร่อยได้ประโยชน์มารับประทาน ซึ่ง อาซาอิคือหนึ่งในซุเปอร์ฟู้ดจึงได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นด้วย ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือในเมืองไทยสามารถปลูกได้ เช่นเดียวกับต้นปาล์ม

อาซาอิ เป็นผลไม้ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะเมืองไทยในตอนนี้เท่านั้น ดั้งเดิมชาวพื้นเมืองแถบอะเมซอนขนานนามว่าเป็น “ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์” ผลไม้สุดวิเศษชนิดนี้ มีคุณประโยชน์มากมาย ให้พลังงานสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอีกด้วย

อาซาอิ (Acai) เป็นพืชในวงศ์ Arecaceae หรือพืชตระกูลปาล์ม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Euterpe oleracea Mart. เป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในป่าดิบชื้นของประเทศแถบอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในรัฐปารา ประเทศบราซิล โคลัมเบีย และเปรู ปัจจุบันมีการปลูกในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ในรัฐฟลอริดา รัฐฮาวาย ผลไม้ชนิดนี้เป็นอาหารหลักของชาวบราซิลในแถบตะวันออกเฉียงเหนือใช้รับประทานกับแป้งมันสำปะหลังหรือใช้คู่กับปลาและอาหารอื่นๆ ทั้งยังมีการนำไปทำน้ำผลไม้หมักเพื่อเป็นเครื่องดื่มชูกำลังอีกด้วย

อาซาอิ ผลอาซาอิ เบอร์รี่

ในปี 2023  ที่ผ่านมามีรายงานการส่งออกอาซาอิไปยังประเทศต่างๆ มากถึง 15,000 ตัน โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ประเทศแถบยุโรบ รวมไปถึงออสเตรเลียและญี่ปุ่น ซึ่งชี้ให้เห็นว่าอาซาอิกำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย สำหรับคนรักสุขภาพหลายคนจึงรู้จักกับอาซาอิ เพราะเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์สูงดีต่อร่างกาย การรับประทานอาซาอิที่ผ่าน กระบวนการ freeze dried  เนื่องจากสามารถคงประสิทธิภาพการต้านอนุมูนอิสระได้สูงกว่าในรูปแบบอื่นๆ รวมถึงเมนูยอดฮิต อย่าง อาซาอิ โบวล์ (Acai Bowl) ที่กลายเป็นเมนูขนมหวานของคนรักสุขภาพ

อาซาอิ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นอาซาอิ

ต้นอาซาอิ มีลักษณะคล้ายต้นปาล์ม เป็นทรงกระบอกเรียวสีน้ำตาลเทา สูงได้ถึง 25 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตร ลำต้นจะมีรอยของกาบใบที่หลุดร่วงไปแล้วคล้ายวงแหวนที่ทิ้งช่วงเป็นระยะ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ยาวประมาณ 1.2-4 เมตร ดอกออกเป็นช่อขนาดใหญ่ที่ห้อยย้อยจากบริเวณยอด ดอกย่อยมีขนาดเล็กสีน้ำตาล ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียจะอยู่แยกกัน ต้องอาศัยแมลงในการช่วยผสมเกสร

ผลของอาซาอิ มีลักษณะกลมคล้ายกับองุ่น แต่มีเนื้อน้อยกว่า ขนาดเล็กประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร เมื่อผลเริ่มสุกเปลือกจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีม่วงเข้มหรือสีเขียวม่วง  ขึ้นอยู่กับชนิด 1 ช่อจะมีผลประมาณ 500-900 ผล เมล็ดมีขนาดใหญ่ อาซาอิ 1 ต้นสามารถให้ผลผลิต 8 ช่อต่อปี แต่ละช่อจะหนักถึง 6 กิโลกรัม

วิธีปลูกอาซาอิ และการขยายพันธุ์

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการปลูกอาซาอิต้องเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ชอบอากาศแบบร้อนชื้นและมีฝนตกชุก ที่อุณหภูมิตั้งแต่ 23-30 องศาเซลเซียส ชอบดินที่ระบายน้ำได้ดี อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ต้องการแสงแดดบางส่วน

การขยายพันธุ์ของอาซาอิจะใช้เมล็ดที่แก่จัดมาเพาะให้เป็นต้นกล้า ต้นกล้าต้องการน้ำสม่ำเสมอ อาจใช้เวลาในการงอกนานถึง 6 เดือน เมื่อเจริญเติบโตสักระยะต้องทำการตัดแต่งกาบใบ เพื่อกระตุ้นให้ต้นสร้างใบใหม่อย่างรวดเร็ว

อาซาอิสามารถเจริญเติบโตได้อย่ารวดเร็ว แต่ต้องใช้เวลาถึง 5 ปี ในการให้ผลผลิตครั้งแรก และสามารถให้ผลผลิตได้นานถึง 30 ปี การเก็บเกี่ยวทำได้ 2 ช่วง คือ เดือนมกราคมถึงมิถุนายน และเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม

การแปรรูปและการนำ อาซาอิ ไปใช้ประโยชน์

อาซาอิเป็นผลไม้ที่มีไขมันสูง จึงทำให้เน่าเสียได้ง่าย เมื่อเก็บผลผลิตผู้คนในท้องถิ่นมักนำมารับประทานทันที หรือนำมาเป็นส่วนผสมของอาหาร เครื่องดื่ม หมักเป็นไวน์ สำหรับการส่งออก จะส่งออกในรูปแบบผลไม้อบแห้งหรือบดเป็นผงในรูปอาหารเสริม หรือแม้กระทั่งส่งออกในรูปแบบแช่แข็ง  และยังพัฒนาเป็นเครื่องสำอาง ที่ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทย ก็เริ่มมีการนำผลอาซาอิเข้ามาทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น อาหารเสริมในรูปแบบต่างๆ

คุณค่าทางอาหารจะประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ไฟเบอร์ วิตามินต่างๆ เช่น วิตามิน A, B1, B2, B3, C และ E มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก แคลเซียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียม อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูงสุด หรือที่เรียกว่า Super Antioxidant

นอกจากนี้ยอดของอาซาอิยังสามารถนำมารับประทานหรือนำมาประกอบอาหารเหมือนกับยอดมะพร้าว ยอดตาลได้อีกด้วย ซึ่งการเก็บเกี่ยวนั้นไม่จำเป็นต้องตัดยอดออกมาทั้งหมด เพียงแต่ลอกเอากาบใบที่แก่และแข็งออกแล้วตัดเฉพาะกาบใบส่วนที่อ่อนมาใช้

อาซาอิเป็นพืชที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์มากมาย ทั้งส่วนของลำต้น ใบ และผล โดยเฉพาะผลของอาซาอิที่กำลังได้รับความสนใจในเรื่องของอาหารเพื่อสุขภาพ การปลูกในเมืองไทยยังไม่เป็นที่นิยมนัก แต่ก็เป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว

เรื่อง สรวิทย์ บุญประสพ

flo wolffia ฟาร์มไข่ผำ พืชจิ๋วพลังยักษ์ ดู

วิธีขยายพันธุ์ต้นวานิลลา ด้วยเทคนิคเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

ติดตามบ้านและสวน Garden&Farm