แบบเอ๊าต์ดอร์

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนทำ ” บ่อน้ำในสวน “

หลายบ้านมีบ่อน้ำ และ น้ำตก ไว้ในสวน เล็กบ้างใหญ่บ้างตามกำลัง ก่อนสร้างก็จินตนาการว่าจะปลูกบัว เลี้ยงปลา หรือปลูกไม้น้ำอย่างอื่น แล้วลงมือสร้าง ไม่นานน้ำก็ขุ่นบัวก็ช้ำ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยและแก้ไขไม่ได้ บ่อน้ำในสวน

ดังนั้น ก่อนจะเกิดปัญหาเหล่านี้ เราจึงขอนำเกร็ดความรู้ จากหนังสือ “การทำน้ำตกและลำธารในสวน” มาฝากกัน เผื่อใครกำลังคิดจะทำ บ่อน้ำในสวน จะได้เตรียมการให้พร้อม

 

 

1.บ่อควรมีขอบ ควรทำให้ขอบบ่อสูงกว่าระดับดินเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำภายนอกไหลชะดินในสวนลงไป อาจใช้วัสดุซีเมนต์แล้วพรางขอบด้วยหินเพื่อความเป็นธรรมชาติ

2.แสงแดดตัวการใหญ่ แสงแดดทำให้ตะไคร่น้ำเจริญเติบโตได้ดี ควรหาวิธีพรางแสงแดดให้ผิวน้ำได้รับแสงน้อยลง เช่น มีไม้ให้ร่มเงา หรือปลูกไม้น้ำ  ไม้ริมน้ำ ทำเป็นระแนงคลุมแล้วปลูกไม้เลื้อย  ระแนงนี้ไม่ต้องคลุมทั้งหมดแค่พรางแสงด้านที่แสงแดดจัดก็พอ

3.เลือกดินที่ดี ถ้าปลูกไม้น้ำลงในบ่อให้เลือกดินปลูกที่ดี และไม่มีตะไคร่น้ำติดมา เพราะสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่มีตะไคร่น้ำเกิดขึ้นมากในสระน้ำ คือตะไคร่น้ำมาจากดินปลูกไม้น้ำ จึงควรนำดินปลูกไม้น้ำมาทุบเกลี่ยตากแดดจัด ๆ สัก 2-3 แดดก่อนนำไปใช้ ถ้าปลูกในกระถางให้ใช้กรวดปิดทับหน้าดิน แล้วนำไปแช่น้ำสัก 30 นาที ก่อนยกไปวางไว้ในบ่อหรือสระตามต้องการ

4.ยิ่งเล็กยิ่งต้องดูแล ถ้าสระน้ำเล็กและตื้นยิ่งต้องหมั่นเก็บเศษใบไม้และเศษซากทั้งหลายในบ่อออกบ่อย ๆ

5.เก็บตะไคร่บางส่วนไว้ หากจะต้องล้างบ่อ อย่าไปขัดหรือขูดผิวผนังหรือพื้นบ่อ ถ้ามีตะไคร่น้ำขึ้นเกาะผนังบ่อก็ยิ่งดี จะทำให้น้ำใสขึ้น ให้ล้างเฉพาะฝุ่นเลนที่ทับถมออก ด้วยการใช้น้ำฉีดล้างแล้วสูบหรือตักออก

6.หาตัวการทำน้ำขุ่น โปรดจำไว้ว่า ตัวการที่ทำให้น้ำขุ่นมีหลายตัว คือ

  • สารแขวนลอยในน้ำซึ่งเกิดจากการสลายตัวของอินทรีย์สาร สิ่งนี้สำคัญมากเพราะเป็นอาหารให้กับสิ่งมีชีวิตหลากหลาย เช่น พืชน้ำเล็ก ๆ มากมายที่เรามักเรียกรวมกันว่าตะไคร่น้ำ บางชนิดเติบโตแล้วแพร่ขยายเต็มบ่อทำให้น้ำขุ่น แต่ตะไคร่น้ำบางชนิดที่เกาะตามผิวผนังบ่อ (เป็นตะไคร่น้ำที่อยู่เป็นที่เป็นทาง) ซึ่งมีปริมาณพอเหมาะ (จากการควบคุมของเรา)ก็ทำให้น้ำใสได้
  • คาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการหายใจของสิ่งมีชีวิตพวกนี้ก็ทำให้น้ำขุ่น
  • น้ำที่ตื้นและได้รับแสงแดดจัด จะเกิดอุณหภูมิสูง ตะกอนจะลอยขึ้นมาได้ง่าย จึงทำให้น้ำขุ่น

7.ทำให้น้ำเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวและหมุนเวียนของน้ำมีส่วนขัดขวางไม่ให้สปอร์ของตะไคร่น้ำเจริญเติบโต แล้วยังเพิ่มออกซิเจนให้น้ำ  เช่น ทำเป็นน้ำพุ  หรือน้ำตก (ไม่จำเป็นต้องก่อเป็นภูเขาจำลอง อาจเป็นผนังน้ำล้นก็ได้แล้วแต่ความสะดวกและรูปแบบที่ต้องการ) การติดหัวพ่นอากาศ หรือการให้น้ำไหลผ่านเครื่องกรองก็ช่วยได้

 

8.ต้นไม้กับแรงกระเพื่อมขอสายน้ำ การทำให้น้ำเคลื่อนไหวมักมีปัญหากับบัวและพืชน้ำ บัวจะช้ำ ใบจะเน่า น้ำก็ขุ่น  ถ้าปลูกบัวก็อย่าวางไว้ในบริเวณน้ำไหลหรือน้ำกระเพื่อมถึง

9.เครื่องสูบก็ทำน้ำขุ่นได้ การทำให้น้ำเคลื่อนไหวโดยใช้เครื่องสูบน้ำ  หากทำไม่ดีจะยิ่งทำให้น้ำขุ่นเพิ่มขึ้นอีก  จึงไม่ควรวางเครื่องสูบน้ำลงในบ่อเลี้ยงโดยตรง  ควรทำบ่อเครื่องสูบแยกจากบ่อเลี้ยง แล้วต่อท่อเชื่อมกันหรือยึดหลักว่า เครื่องสูบน้ำจะไม่สูบเอาตะกอนขึ้นมาหมุนเวียน

10.วางตำแหน่งหัวพ่นอย่างเหมาะสม ถ้าระบบกรองไม่ดี  ก็อย่าวางหัวพ่นอากาศให้ลึกใกล้พื้นบ่อมากนัก โดยปกติควรวางลึกจากผิวน้ำ 20-25 เซนติเมตร

สำหรับผู้สนใจจัดสวนน้ำ กำลังคิดทำบ่อ หรือน้ำตกในสวน สามารถติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากหนังสือ “การทำน้ำตกและลำธารในสวน” เนื้อหาในเล่มเปี่ยมด้วยเรื่องน่ารู้มากมาย รวมถึงเรื่องที่หลายคนสงสัย อาทิ เทคนิคการทำให้น้ำในบ่อใสโดยไม่ใช้บ่อกรอง การเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะกับงานน้ำตก การคำนวนรอบการไหลของน้ำเพื่อให้บ่อเลี้ยงปลาใสสะอาด  การสร้างบรรยากาศธรรมชาติในสวนน้ำตกด้วยไอหมอก  ฯลฯ

เรื่อง ขวัญชัย จิตสำรวย
เรียบเรียง “ทิพาพรรณ”
ภาพ อภิรักษ์ สุขสัย


เรื่องที่น่าสนใจ