“ ลิ้นมังกร ” เป็นไม้อวบน้ำในสกุล Sansevieria ซึ่งเป็นชื่อที่นักชีววิทยาชาวอิตาลี Vincenzo Petagna ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมถ์ของเขาคือท่านเคานต์ Pietro Antonio Sansevierino
ลิ้นมังกรมีถิ่นกำเนิดในพื้นที่แห้งแล้ง ตามทุ่งหญ้าสะวันนาชายขอบทะเลทรายของทวีปแอฟริกาและบางส่วนในตะวันออกกลาง อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในเมืองไทยมีผู้นำเข้ามาปลูกเลี้ยงกันมายาวนาน โดยชนิดแรกๆ ที่รู้จักและนิยมปลูกประดับรอบบ้านคือ Sansevieria canaliculata ที่เรียกกันว่า ว่านงาช้าง หรือว่านงู และ S. trifasciata ซึ่งเติบโตได้ดีให้สีสันสวยงามในบ้านเรา ปัจจุบันเกิดการกลายพันธุ์เป็นลักษณะใหม่ที่ต่างจากเดิม เช่น ใบด่าง ใบสั้น ใบบิด หรือแคระ และเป็นหนึ่งในไม้ประดับของไทย ที่มีการปลูกเลี้ยงและมีการปรับปรุงพันธุ์ให้เกิดลูกผสมที่สวยงามขึ้นกว่าเดิมมากมาย ดังเช่นลูกผสมพันธุ์แคระของคุณปราโมทย์ โรจน์เรืองแสง แห่งสวนอัญมณี
หลังจากประสบความสำเร็จในการผลิตลูกผสมอโกลนีมาขึ้นมากมาย ราว 4-5 ปีที่ผ่านมาคุณปราโมทย์ได้ทดลองผสมเกสรลิ้นมังกรขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเน้นต้นที่มีฟอร์มต้นเล็กกระทัดรัด สีสันสวยงาม แตกหน่อง่าย มาเป็นพ่อ-แม่พันธุ์ ซึ่งก็ได้ลูกไม้ใหม่ๆ ที่มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากเดิมอย่างชัดเจนนั่นคือ ทรงต้นแคระ สูงไม่เกิน 5-10 เซนติเมตร บางต้นมีลายด่างบนใบ ใบเล็กป้อม ดูน่ารัก เหมาะปลูกเป็นไม้กระถาง ตั้งบนโต๊ะทำงานริมหน้าต่าง
อีกทั้งมีงานวิจัยพบว่า พืชสกุลลิ้นมังกรมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถผลิตก๊าซออกซิเจนในช่วงกลางคืน และยังดูดซับสารพิษในอากาศได้ดี ช่วยลดมลพิษให้อากาศอีกด้วย ทั้งยังเป็นเป็นไม้ประดับสวนและไม้ในบ้านที่ปลูกเลี้ยงง่าย แข็งแรงและทนแล้งได้ดี ด้วยเทคนิคง่ายๆ ในการปลูกเลี้ยงลิ้นมังกรให้สำเร็จคือ เตรียมดินปลูกที่ร่วนระบายน้ำดี เลือกภาชนะที่มีขนาดเหมาะสม มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อยช่วงครึ่งวันเช้า หรือพรางแสง 50 เปอร์เซนต์ รดน้ำสม่ำเสมอ ทุกเช้า-เย็น เพียงเท่านี้ ลิ้นมังกรก็เติบโตได้ดี ผลิหน่อใหม่ให้ตัดแยกไปปักชำได้
อย่าลืมให้ปุ๋ยบ้างเป็นบางทุก 1-2 เดือน อาจเป็นปุ๋ยเกล็ดละลายน้ำ หรือปุ๋ยเม็ดละลายช้าก็ได้ สิ่งสำคัญคือ ควรให้ทีละน้อย แต่สม่ำเสมอดีกว่า ให้ทีละมากๆ รับรองว่า ต้นลิ้นมังกรของคุณจะมีทรงต้นสวยงาม พร้อมแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้านได้แน่นอน
สั่งซื้อได้ที่นี่
เรื่อง : วิฬาร์น้อย / ภาพ : สำนักพิมพ์บ้านและสวน
เรื่องที่น่าสนใจ