รวม 10 ชนิด ผักสวนครัวที่ใช้ดอกประกอบอาหารได้

หลายคนคงคุ้นเคยกับการรับประทานใบ ลำต้น หรือแม้กระทั่งรากของผักกันอยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า มี ผักสวนครัวที่ใช้ดอกเป็นอาหาร สามารถนำมารับประทานได้ โดยเฉพาะกับผักสวนครัวที่มีกันเกือบทุกบ้านอยู่แล้ว

ซึ่งผักสวนครัวหลายชนิดก็ยังปลูกและดูแลไม่ยากเกินไป เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากปลูกผักไว้รับประทานเองในสวนครัวหลังบ้านได้อีกด้วย และครั้งนี้เรามาแนะนำ ผักสวนครัวที่ใช้ดอกเป็นอาหาร มา 10 ชนิด ที่นอกจากจะปลูกง่ายแล้วยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายอีกด้วย

ผักสวนครัวที่ใช้ดอกเป็นอาหาร

1 I แคขาว แคแดง (Agasta)

ดอกมีสีขาว สีแดง มีกลิ่นหอม เป็นรูประฆังหรือรูปถ้วย รสชาติขม สามารถนำเกสรออกเพื่อลดความขมลงได้ เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง เป็นไม้เนื้ออ่อน

วิธีปลูก ใช้เมล็ดมาเพาะ 1-2 เมล็ดต่อถุง ใช้เวลา 4-5 วัน ต้นจะเริ่มงอก แล้วค่อยถอนออกเหลือ 1 ต้นต่อถุง เมื่ออายุ 30 วัน ให้บำรุงด้วยปุ๋ย 16-16-16 จนต้นกล้าอายุ 50-60 วัน จึงค่อยย้ายปลูกลงแปลงปลูกต่อได้ เมื่อต้นแคสูงประมาณ 1 เมตร หรืออายุประมาณ 3 เดือน จะเริ่มออกดอกให้เก็บเกี่ยวได้

ผักสวนครัวที่ใช้ดอกเป็นอาหาร

2 I ชมจันทร์ (Moonflower)

ดอกมีสีขาว กลิ่นหอม ดอกบานตอนเช้าและหัวค่ำ แต่จะนิยมเก็บดอกตูมมาประกอบอาหาร โดยดอกมีรสชาติหวานเล็กน้อย เป็นไม้เถา ไม่มีขน ลำต้นมียางใส

วิธีปลูก ใช้เมล็ดนำเมล็ดมาแช่น้ำ 12 ชั่วโมง เพื่อให้เปลือกหุ้มเมล็ดอ่อนตัว จะช่วยให้งอกเร็วขึ้น โดยหยอดเมล็ดลงแปลงโดยตรง แต่ถ้าปลูกในถาดเพาะให้ย้ายปลูกเมื่อต้นอายุได้ 30 วัน นอกจากนี้ยังสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการปักชำ ใช้เวลาประมาณ 40-45 วัน จะเริ่มออกดอกและเก็บเกี่ยวดอกได้

ผักสวนครัวที่ใช้ดอกเป็นอาหาร

3 I โหระพา (Basil)

ดอกมีสีขาวอมแดงม่วง ออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อออกดอกเรียงเป็นชั้นๆ มีรสชาติคล้ายใบโหระพา และอาจมีรสขมเล็กน้อย เป็นพืชล้มลุก ลำต้นขนาดเล็กเป็นพุ่ม กิ่งก้านมีสีม่วงแดง มีขนอ่อนๆ ที่ลำต้น

วิธีปลูก ใช้ได้ทั้งเมล็ดและวิธีการปักชำ โดยการเพาะเมล็ดให้โรยลงบนกระถางปลูกแล้วกลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม เมื่อต้นกล้ามีอายุ 20-25 วัน จึงค่อยย้ายปลูก และเมื่อมีอายุ 60-70 วันจึงเริ่มออกดอก และการเด็ดดอกโหระพาออกจะช่วยยืดอายุและช่วยไม่ให้ต้นโทรมไวอีกด้วย

ผักสวนครัวที่ใช้ดอกเป็นอาหาร

4 I บรอกโคลี (Broccoli)

ดอกมีสีเขียวเข้ม มีขนาดใหญ่ อยู่รวมกันเป็นกลุ่มช่อหนาแน่น มีรสชาติหวานกรอบ เป็นไม้ล้มลุก ลำต้นเป็นทรงพุ่มใหญ่และอวบ ใบมีสีเขียวเข้มอมเทา ริมขอบใบหยัก

วิธีปลูก ใช้เมล็ดหว่านหรือเพาะในถาดเพาะก็ได้ เมื่ออายุ 20 วัน ถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ออก และเมื่อต้นกล้ามี 4-5 ใบ ก็สามารถย้ายลงแปลงปลูกได้ บรอกโคลีเป็นพืชที่ชอบอากาศเย็น ชอบแสงแดด และเมื่ออายุประมาณ 60 วัน ก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้

ผักสวนครัวที่ใช้ดอกเป็นอาหาร

5 I ฟักทอง (Pumpkin)

ดอกมีสีเหลือง กลีบดอกสีเขียว รสชาติจืดมัน ออกดอกเดี่ยวอยู่ตามข้อใบ เป็นดอกไม่สมบูรณ์ที่ดอกเพศผู้และเพศเมียแยกกันอยู่ แต่อยู่ในต้นเดียวกัน โดยดอกเพศเมียจะมีลักษณะคล้ายผลฟักทองขนาดเล็กอยู่ด้วย โดยปกติแล้วการผสมฟักทองจะต้องเด็ดดอกตัวผู้ออกมาผสมกับดอกตัวเมีย ซึ่งดอกตัวผู้ที่เด็ดออกมานั้น สามารถนำมาประกอบอาหารได้

วิธีปลูก ใช้เมล็ดหยอดลงแปลงปลูกหรือจะเพาะในถาดเพาะก็ได้ เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ จึงค่อยย้ายปลูกหรือเริ่มถอนคัดเหลือต้นที่สมบูรณ์ที่สุดไว้ และเมื่อมีอายุได้ 14 วัน ให้ใส่ปุ๋ยที่เน้นไนโตรเจน 12-14 กิโลกรัมต่อไร่ และเมื่อมีอายุได้ 21 วัน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 14-14-21 และฟักทองเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำขัง แต่ต้องการน้ำสม่ำเสมอ สำหรับฟักทองพันธุ์เล็กจะเริ่มออกดอกเมื่ออายุประมาณ 30 วัน ส่วนฟักทองพันธุ์กลางถึงใหญ่จะเริ่มออกดอกเมื่ออายุประมาณ 60 วัน

6 I อัญชัน (Butterfly Pea)

ดอกมีสีน้ำเงิน ม่วง หรือขาว ออกดอกที่ซอกใบ กลีบดอกรูปดอกถั่ว รสชาติหวานอ่อนๆ มีกลิ่นหอมเล็กน้อย เป็นไม้ล้มลุกเลื้อยพันยาวได้ 1-5 เมตร

วิธีปลูก ใช้เมล็ดมาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน แล้วห่อด้วยผ้า 2-3 วัน ให้รากงอก แล้วจึงค่อยย้ายปลูกลงในกระถาง อัญชันดูแลง่าย ทนแล้ง ชอบแสงแดดพอสมควร และควรทำค้างให้อัญชันได้เลื้อยเกาะ ใช้เวลาปลูกประมาณ 2 เดือน ก็จะเริ่มออกดอกให้เก็บเกี่ยวได้

ผักสวนครัวที่ใช้ดอกเป็นอาหาร : กะหล่ำดอก (Cauliflower)

ช่อดอกออกเป็นกระจุกสีขาว รสชาติหวานและมีกลิ่นถั่วเล็กน้อย เป็นไม้ล้มลุก ต้นตรง 20-60 ซม. เจริญเติบโตได้ดีในภาพอากาศที่เย็น

วิธีปลูก ใช้เมล็ดหยอดลงในถาดเพาะ หลุมละ 1-3 เมล็ด รดน้ำทุกวัน เมื่อต้นกล้าเริ่มโตให้คัดเหลือ 1 ต้น/หลุม จนต้นกล้ามีใบจริง 3-4 ใบ จึงค่อยย้ายปลูกลงแปลง มีระยะปลูก 40×60 ซม. ซึ่งระยะการเก็บเกี่ยวจะแบ่งได้ 3 กลุ่มตามนี้ พันธุ์เบา อายุเก็บเกี่ยว 50-65 วัน พันธุ์กลาง 65-75 วัน และพันธุ์หนัก อายุเก็บเกี่ยว 70-90 วัน

ผักสวนครัวที่ใช้ดอกเป็นอาหาร : โสน (Hemp Fesbania)

ดอกมีสีเหลือง กลีบเลี้ยงมีสีเขียว รสชาติจืดมัน และขมเล็กน้อย ออกดอกเป็นช่อกระจุกกัน ออกตามซอกใบ ซอกกิ่ง และปลายกิ่ง เป็นไม้ล้มลุกปีเดียว เป็นพุ่มขนาดกลาง ลำต้นเปราะ

วิธีปลูก ใช้เมล็ดโรยลงบนแปลงหรือจะเพาะในถุงปลูก 2-3 เมล็ด/ถุง ก็ได้ การดูแลให้รดน้ำทุกวัน เมื่อต้นกล้าเริ่มโตให้คัดเหลือต้นที่สมบูรณ์ที่สุด 1 ต้น พออายุได้ 15 วัน ก็ย้ายปลูกลงแปลงได้ โดยรวมแล้วปลูกดูแลง่าย และเมื่อโสนอายุได้ 2 เดือน จึงจะเริ่มออกดอกและสามารถเก็บผลผลิตได้ ดอกโสนต้องเก็บก่อน 11:00 น. เพื่อให้ดอกยังตูมอยู่ และควรเก็บทุกวันไม่อย่างนั้นดอกจะกลายเป็นฝักและจะออกดอกน้อยลง

ผักสวนครัวที่ใช้ดอกเป็นอาหาร : กุยช่าย (Chinese chive)

ดอกมีสีขาว กลิ่นหอม ออกดอกเป็นช่อ ก้านช่อดอกกลมตันยาวประมาณ 40-45 ซม. รสชาติหวานกรอบ  กุยช่ายเป็นไม้พืชล้มลุก สูง 30-45 ซม. มีเหง้าเล็กและแตกกอ

วิธีปลูก ใช้เมล็ดหว่านลงแปลงหรือปลูกโดยใช้หัวพันธุ์ 3-5 หัวต่อหลุม ระยะห่าง 30×30 ซม. ถ้าปลูกด้วยเมล็ดจะใช้เวลาประมาณ 8 เดือน จึงเริ่มเก็บเกี่ยวได้ แต่ถ้าปลูกจากหัวพันธุ์จะใช้เวลาสั้นกว่า ประมาณ 3-4 เดือน จึงเริ่มเก็บเกี่ยวดอกได้

ผักสวนครัวที่ใช้ดอกเป็นอาหาร : ขจร (Cowslip creeper)

ดอกมีสีเหลืองอมชมพูอ่อน ออกเป็นช่อ รสชาติขมและมีกลิ่นหอม นอกจากดอกแล้วสามารถรับประทานได้ทั้งยอดอ่อน และผลอ่อน เป็นไม้เลื้อยเถาเล็ก ทุกส่วนของลำต้นมีน้ำยางขาว สามารถเลื้อยได้ไกล 2-5 เมตร จึงต้องทำค้างเพื่อให้ต้นได้เลื้อยพัน

วิธีปลูก สามารถทำได้ทั้งการปักชำและเพาะเมล็ด หลังปลูกประมาณ 1 เดือน ดอกขจรจะเริ่มออกดอก พอเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวผลผลิตจะเริ่มลดลง ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับตัดแต่ง ดอกขจรเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ชอบแสงแดดจัด ปลูกดูแลง่าย สามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย

นอกจากนี้สำหรับท่านใดที่สนใจ อยากหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดอกไม้ทานได้ ขอแนะนำเป็น หนังสือ My Little Farm Vol.12 ดอกไม้และใบไม้กินได้ ภายในเล่มรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับดอกไม้และใบไม้กินได้รวมกว่า 70 ชนิด จากประสบการณ์กว่า 6 ปีของคุณอ้อ – ดร.ถนอมวรรณ สิงห์จุ้ย เจ้าของฟาร์มสุขดอกไม้ไทยกินได้ ในลักษณะ How to ที่เข้าใจง่าย

ปฏิทินปลูกผัก ปลูกอย่างไรให้มีผักกินทั้งปี

เรื่องเล่าจาก สวนผักบนดาดฟ้า ห้องทดลองปลูกของ “แพรี่พาย”

เมนู ยำบุปผา เมนูสร้างสรรค์จากดอกไม้ริมรั้ว