รู้ไหมว่า…พืชผักที่ปลูกอยู่นั้นมีอายุแตกต่างกัน บางชนิดมีอายุสั้น พอเก็บเกี่ยวเสร็จก็ต้องเตรียมแปลง และเพาะเมล็ดใหม่ แต่สำหรับผักที่มีอายุยืนยาว หรือ ผักปลูกครั้งเดียวกินได้ตลอด การปลูกแต่ละครั้งกลับสามารถเก็บกินได้ยาวนานนับปี
ครั้งนี้เราเลยมาเอาใจแฟนฟาร์มที่สนใจ ผักปลูกครั้งเดียวกินได้ตลอด ซึ่งบางชนิดก็สามารถกินได้ตลอดปี บางชนิดก็มีช่วงพักตัวบ้าง แต่ก็ยังสามารถเก็บเกี่ยวได้นานหลายปี เราเลยพามารู้จักกับผักทั้ง 11 ชนิดจะมีอะไรบ้างมาดูกัน ไม่แน่อาจมีชนิดที่ชอบทานและกำลังอยากลองปลูกอยู่ก็ได้
ผักปลูกครั้งเดียวกินได้ตลอด : คะน้าเคล
เป็นพืชตระกูลเดียวกับกะหล่ำ แต่จะไม่ห่อหัว มีอายุหลายปี และมีสายพันธุ์ที่หลากหลาย ทั้งแบบใบหยิก ใบเรียบ ใบสีเขียว สีม่วงถึงแดง โดยนิยมทยอยตัดใบด้านล่างไปรับประทาน ส่วนลำต้นก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ พออายุมากขึ้นจะแตกแขนงบริเวณโคนต้นสามารถนำไปชำต่อเป็นต้นใหม่ได้ สามารถทานสด ทำสมูทตี้ หรือประกอบอาหารประเภทผัด ต้มยำ หรือแกงจืดก็ได้
วิธีปลูก : นิยมเพาะเมล็ดในถาดหลุม หลุมละ 2 เมล็ด ใช้เวลาประมาณ 3-7 วันจะเริ่มงอก หลังจากเพาะควรวางถาดไว้ในที่ร่มสัก 2-3 วัน เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 1-3 ใบ ให้คัดเหลือหลุมละ 1 ต้น จนอายุได้ 15-18 วัน ก็สามารถย้ายปลูกใส่กระถางขนาด 15 นิ้ว และเก็บกินได้ตั้งแต่อายุ 45 วันเป็นต้นไป ได้ยาวนาน 1-2 ปี
ผักปลูกครั้งเดียวกินได้ตลอด : หน่อไม้ฝรั่ง
เป็นพืชล้มลุกอายุหลายปี เป็นพืชพื้นเมืองทางแถบยุโรปและแอฟริกา ลำต้นใต้ดินมีลักษณะเป็นเหง้าที่สามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นลำต้นเหนือดินได้ มีกิ่งแขนงแตกออกโดยรอบ ใบมีขนาดเล็ก โดยจะรับประทานส่วนที่เป็นหน่ออ่อนเหนือดิน ที่มีลักษณะคล้ายหน่อไม้แต่มีขนาดเล็กกว่า สามารถล้างให้สะอาดแล้วทานสด หรือนำไปประกอบอาหารประเภทต้ม นึ่ง ผัด อบ ย่าง
วิธีปลูก : ให้หยอดเมล็ดลงในถาดเพาะ หลุมละ 1-2 เมล็ด กลบเมล็ดแล้วรดน้ำ ตั้งไว้ในร่มรำไร ใช้เวลา 10-20 วันจะเริ่มงอก เมื่อต้นกล้ามีความสูง 15-20 เซนติเมตร หรือประมาณ 45 วัน ให้ย้ายปลูกใส่กระถางขนาด 6-8 นิ้ว เมื่อต้นหน่อไม้ฝรั่งมีการเจริญเติบโตดี ก็ย้ายลงปลูกในกระถางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 12-15 นิ้ว จนอายุ 4 เดือน ก็เริ่มมีการแตกกอและพร้อมเก็บหน่อ สามารถเก็บเกี่ยวได้ยาวนานถึง 5 ปี แต่หลังจากเก็บเกี่ยวไป 2 เดือน จะต้องพักต้นประมาณ 20-30 วัน
ผักปลูกครั้งเดียวกินได้ตลอด : สะระแหน่
เป็นพืชล้มลุก เลื้อยแผ่ไปตามดิน แตกกิ่งก้านมาก มีขนสั้นนิ่มปกคลุมทุกส่วนของลำต้น มีกลิ่นหอม ใบรูปรีค่อนข้างกว้าง ชอบดินร่วนปนทราย ชอบแสงแดดรำไร เวลาเก็บเกี่ยวใช้มีดหรือกรรไกรตัดยอดสะระแหน่ เลือกใบที่มีสีเขียวสด ไม่เหี่ยวเฉา ใบสดนำมาประกอบอาหาร หรือใช้ตกแต่งอาหารประเภทยำ
วิธีปลูก : เลือกกิ่งสะระแหน่ที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป ยาวประมาณ 10-15 ซม. นำกิ่งไปปักลงในดิน รดน้ำให้ชุ่ม และวางกระถางไว้ในที่ร่ม เมื่อต้นโตประมาณ 20-30 ซม. หรือ 40-45 วันหลังปลูก ก็สามารถเก็บเกี่ยวใบได้แล้ว และสามารถเก็บเกี่ยวได้ยาวนาน 1 ปี
4 I ตะไคร้
เป็นไม้ล้มลุกประเภทหญ้าอายุหลายปี ลำต้นเป็นกอใหญ่ มีข้อปล้องสั้น ลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอก มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้กับอาหารได้ เวลาเก็บเกี่ยวใช้เสียมขุดลึกลงไปใต้โคนต้น ตัดลำต้นตะไคร้ให้ขาดจากเหง้า จากนั้นนำไปล้างทำความสะอาด สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายทั้ง ต้ม ยำ แกง ผัด รวมถึงทำหน้าพริกก็ยังได้
วิธีปลูก : เตรียมหลุมปลูก 20x20x20 ซม. และพรวนดินในหลุมให้ร่วนซุย จากนั้นนำต้นพันธุ์ตะไคร้ลงปลูก 2-4 ต้นต่อหลุม ระยะห่างระหว่างหลุม 80-100 ซม. หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ให้ใส่ปุ๋ย 15-15-15 หลุมละ 1 ช้อนโต๊ะ เดือนละ 1 ครั้ง ทั้งหมด 3 ครั้ง จนอายุ 5-6 เดือน ก็พร้อมเก็บเกี่ยวได้ และเก็บเกี่ยวได้ทุกๆ 3 เดือน ยาวนาน 2-3 ปี
5 I ผักเป็ดญี่ปุ่น
เป็นผักในตระกูลกะหล่ำ มีลำต้นกลม อวบน้ำ แตกแขนงออกเป็นกิ่งก้านสาขา ยาวประมาณ 10-30 ซม. ใบเรียงสลับ รูปไข่ เจริญเติบโตได้เร็ว ชอบน้ำ นิยมนำมาทำเป็นผักสลัด ผักแกล้มกับน้ำพริก
วิธีปลูก : ให้ปักตัดกิ่งพันธุ์ความยาวประมาณ 1 คืบ แล้วตัดใบข้างกิ่งออกให้หมดเหลือไว้เพียงบริเวณยอดกิ่ง จากนั้นปักกิ่งพันธุ์ลงดินแล้วกดดินรอบๆ ให้แน่น วางไว้ในร่มรำไร จะเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 1 เดือน และสามารถเก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ ตลอดปี
6 I ดอกขจร หรือ ดอกสลิด
เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก เถาอ่อนมีลักษณะกลม เป็นสีเขียว แต่เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ใบเดี่ยวรูปหัวใจ ดอกเป็นช่อกระจุก ตามข้อลำต้น ง่ามใบ หรือปลายกิ่ง ชอบแสงแดดจัด เจริญเติบโตได้ในดินร่วนซุย ดอกนิยมทำอาหารได้หลายชนิด ยำ แกง รวมถึงดอกใช้ลวกจิ้มน้ำพริก
วิธีปลูก : นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ โดยให้เลือกขจรพันธุ์ดอก ซึ่งมาจากการปรับปรุงพันธุ์จะมีดอกที่ใหญ่และดกมากกว่า เริ่มจากปักกิ่งชำลงในถุงเพาะ รดน้ำให้ชุ่ม นำไปพักไว้ในร่มรำไร เมื่อแตกกิ่งจนยาวประมาณ 1 คืบ หรือ 14 วัน จึงย้ายกล้าลงไปแปลงปลูกได้ และทำค้างเพื่อดอกขจรเลื้อยตาม ซึ่งจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ช่วงเดือนที่ 5 หลังปลูก และสามารถเก็บเกี่ยวได้ยาวนาน 4 ปี แต่จะหยุดให้ดอกช่วงฤดูหนาว
7 I ตำลึง
เป็นไม้เลื้อยอายุหลายปี เถาแก่มีสีเทา ขรุขระเล็กน้อย ใบรูปร่างคล้าย 5 เหลี่ยม ยอดอ่อนใช้นำมาลวกหรือนึ่งรับประทาน เวลาเก็บเกี่ยวควรทำในช่วงเช้าที่มีน้ำค้างเกาะ เพราะหนวดตำลึงจะไม่พันกัน และเลือกยอดอ่อนยาวประมาณ 10-15 ซม. สีเขียวสด ไม่มีรอยช้ำ นิยมนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายทั้ง แกง ต้ม ผัด ลวกน้ำจิ้มก็ได้
วิธีปลูก : เลือกเถาตำลึงแก่ที่สมบูรณ์ยาวประมาณ 30 ซม. ปักเถาตำลึงลงในดิน รดน้ำให้ชุ่ม วางในที่ร่มรำไร รดน้ำเช้าเย็น เมื่อเถาแตกใบอ่อน ให้ย้ายปลูกในแปลงที่เตรียมไว้ โดยได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง และทำค้างไว้สำหรับให้ตำลึงเลื้อยด้วย จะสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 1-2 เดือน และสามารถเก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ ตลอดปี
8 I หน่อไม้
มาจากหน่อของต้นไผ่ ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ด้วยกันที่ทานหน่อไม้ได้ เช่น ไผ่รวกหวาน ไผ่ซางหม่น เป็นต้น แต่หน่อไม้มีสารพิษไซยาไนด์อยู่บ้างการรับประทานสดไม่แนะนำ ดังนั้น จึงต้องนำมาต้มก่อนเพื่อลดสารไซยาไนด์ เวลาเก็บเกี่ยวให้ใช้มีดตัดหน่อไม้เหนือโคนประมาณ 1-2 นิ้ว ตัดให้แผลเรียบ และไม่ควรตัดหน่อไม้ที่อ่อนหรือแก่เกินไป นำไปประกอบอาหารได้ทั้ง ต้ม ผัด ยำ รวมถึงนำไปดองก็ได้เช่นกัน
วิธีปลูก : ให้เตรียมหลุมปลูกมีขนาด 50x50x50 ซม. รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมัก เลือกเหง้าไผ่ที่มีขนาดใหญ่ อวบอ้วน จากนั้นวางเหง้าไผ่ลงไป กลบดินรอบโคนต้น รดน้ำให้ชุ่ม ใช้เวลาประมาณ 2 ปี จึงค่อยเก็บเกี่ยวหน่อไม้ได้ สำหรับผู้ที่มีกอไผ่อยู่แล้วให้สางกอไผ่เหลือประมาณ 12 ลำต่อกอ ทำให้พื้นที่โล่งเตียน โรยปุ๋ยคอกรอบๆ คลุมด้วยฟาง รดน้ำให้ชุ่มวันเว้นวัน ประมาณ 1 เดือน จะเริ่มมีหน่อไม้ให้เก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ ตลอดปี
9 I ชะอม
เป็นไม้ยืนต้นที่นิยมตัดแต่งเป็นไม้พุ่ม ใบมีขนาดเล็กและมีกลิ่นฉุน มักปลูกตามรั้วบ้านเนื่องจากลำต้นมีหนาม สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย และมักพักตัวช่วงฤดูหนาว เวลาเก็บเกี่ยวใช้มือเด็ดยอดชะอม และใช้กรรไกรตัดแต่งเพื่อกระตุ้นให้แตกยอดใหม่ สามารถนำไปประกอบอาหารประเภทแกง ยำ ทอด
วิธีปลูก : สามารถปลูกได้ทั้งเมล็ดและปักชำ สำหรับกิ่งพันธุ์ให้เลือกกิ่งที่มีสีน้ำตาลเข้ม เปลือกแข็ง ไม่มีโรคและแมลง มีประมาณ 3-4 ตา การปลูกให้นำกิ่งพันธุ์ปักลงในกระถาง รดน้ำวันเว้นวัน พอเริ่มแตกยอดให้ย้ายปลูกลงในกระถางที่ใหญ่ขึ้น จนอายุ 3-4 เดือนก็พร้อมเก็บเกี่ยว สามารถเก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ ตลอดปี และพอต้นมีขนาดใหญ่ก็ให้จะโน้มกิ่งลงมาเพื่อให้เก็บเกี่ยวได้ง่ายขึ้น
10 I มะกรูดตัดใบ
เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก ลำต้นและกิ่งมีหนามแหลม เปลือกต้นเรียบสีน้ำตาล ใบมีสีเขียวแก่ ผิวเรียบเกลี้ยงเป็นมัน ค่อนข้างหนา มีกลิ่นหอมมาก ผลมีสีเขียวเข้มคล้ายมะนาว ใบมะกรูดนิยมใส่ในแกงที่มีรสชาติจัด รวมถึงช่วยดับกลิ่นคาวของวัตถุดิบ สามารถนำไปประกอบอาหารประเภทยำ แกง ทอด
วิธีปลูก : สำหรับวิธีการเพาะเมล็ด สามารถใช้จากเมล็ดจากผลมะกรูดได้ โดยนำมาล้างให้สะอาด และผึ่งให้แห้ง จากนั้นหว่านลงในภาชนะปลูก กลบดินบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่ร่มรำไร ใช้เวลา 1-2 สัปดาห์เมล็ดจะเริ่มงอก เมื่อต้นกล้ามี 3-4 ใบ จึงย้ายลงปลูกได้
สำหรับวิธีการปักชำจากกิ่งตอน ให้ปักกิ่งลงในวัสดุปลูก กลบให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่ร่มรำไร ใช้เวลา 15-30 วัน กิ่งชำมะกรูดจะเริ่มผลิใบ (ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกิ่งชำ) จนอายุ 2-3 เดือน ก็พร้อมย้ายปลูกได้ โดยใบมะกรูดสามารถเก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ ตลอดปี
11 I ผักไชยา
มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโก เป็นไม้พุ่ม อายุหลายปี สูง 2-6 เมตร ลำต้นอวบน้ำ ก้านใบยาว ใบหยักเว้าเป็น 3-5 แฉก คล้ายกับใบมะละกอ มีน้ำยางสีขาวซึ่งมีสารไซยาไนด์ แต่สามารถสลายไปได้เมื่อได้รับความร้อน สามารถประกอบอาหารได้หลากหลายทั้งลวกจิ้มน้ำพริก ผัด แกง ต้ม ยำ
วิธีปลูก : นำกิ่งพันธุ์มาปักชำ โดยเลือกกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อน ตัดเป็นท่อน ยาวประมาณ 10-15 ซม. ชำในถุง ใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ กิ่งจะเริ่มแตกใบอ่อน รอให้ต้นแข็งแรงจึงย้ายปลูกลงดินได้ สามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุ 45-60 วัน และสามารถเก็บกินได้เรื่อยๆ ตลอดปี