น้อยหน่าเรดอิสราเอล (Annona Red Israel) นับว่าเป็นน้อยหน่าอีกสายพันธุ์ที่โดดเด่นและน่าจับตามอง ด้วยลักษณะที่มีผิวสีแดง มีปุ่มเรียงกันสวยงาม รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อเยอะ ขนาดผลกำลังดีเป็นที่ต้องการของตลาด
ซึ่ง น้อยหน่าเรดอิสราเอล ชนิดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Annona x Atemoya ‘Red Israel’ เป็นน้อยหน่าลูกผสม หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ “Atemoya” ที่พึ่งมีการนำมาปลูกในไทยได้ไม่นาน ทำให้มีหลายคนสนใจอยากลิ้มรสน้อยหน่าชนิดนี้ จึงทำให้มีราคาผลผลิตที่สูงถึง 150-200 บาท/กิโลกรัม เลยทีเดียว
และเมื่อนำมาปลูกในประเทศไทยก็พบว่า สามารถปรับตัว และ ให้ผลผลิตได้ดี เช่นเดียวกันกับ คุณตั้ม – พงศธร ลี้สธนกุล ทายาทชาวสวนรุ่นที่ 3 จาก สวนผลไม้นายตั้มอำเภอบ้านแพ้ว ผู้ที่ชื่นชอบปลูกพืชสายพันธุ์แปลกใหม่ ก็ได้ปลูกน้อยหน่าชนิดนี้ด้วย และ ได้มาแนะนำวิธีการปลูก การดูแล ตลอดจนเก็บผลผลิต ผ่านประสบการณ์ไว้ได้อย่างน่าสนใจ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของ น้อยหน่าเรดอิสราเอล
น้อยหน่าเรดอิสราเอล มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้น เป็นต้นไม้ผลัดใบหรือกึ่งผลัดใบ ลำต้นสูง 3-9 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่ม ใบมีลักษณะยาวรูปไข่หรือรูปรี ใบเรียงแบบสลับ ใบยาว 7-15 เซนติเมตร กว้าง 8-10 เซนติเมตร ผลมีสีแดง รูปหัวใจ เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ มีน้ำมาก รสชาติค่อนข้างหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ผิวขรุขระเป็นช่องกลมนูน ดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศ มีกลีบดอกจัดเรียงเป็นวงๆ ละ 3 กลีบ สีเหลืองอมเขียวห้อยลง ออกดอกเดี่ยวตามซอกใบ
วิธีการปลูก น้อยหน่าเรดอิสราเอล
คุณตั้มเลือกใช้ต้นพันธุ์เสียบยอดในการปลูก ซึ่งภายในปีแรกก็สามารถติดผลได้แล้ว มีระยะปลูก 2×2 หรือ 4×4 เมตร และ ให้คลุมหน้าดินบริเวณหลุมปลูกด้วยฟาง หญ้าแห้ง หรือแกลบ สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินทราย หรือ ดินดอน ให้ผลผลิตปีละครั้ง
แต่เนื่องจาก พื้นที่แถวอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมทุรสาคร เป็นพื้นที่ที่มีดินค่อนข้างเหนียว คุณตั้ม จึงปลูกน้อยหน่าแบบยกร่อง ข้อดี ของการยกร่องปลูกคือมีน้ำตลอดทั้งปี แต่ข้อกำจัด ก็จะทำให้เสียพื้นที่ปลูกส่วนหนึ่งไปเป็นร่องน้ำแทน
การยกร่อง ช่วยให้ความชื้นไม่สะสมที่รากมากเกินไป ทำให้รากไม่เน่า โดยรากของน้อยหน่าจะอยู่ระดับผิวดินประมาณ 50 เซนติเมตร และ การที่ปลูกแบบยกร่อยยังช่วยให้สามารควบคุมความชื้นได้ง่าย โดยการสูบน้ำเข้า และ ออกตรงร่องสวน ส่วนเรื่องการรดน้ำจะรดวันเว้นวัน แต่ในฤดูร้อนจำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน การมีระบบน้ำที่ดี จะทำให้น้อยหน่าสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี และ สามารถออกดอกนอกฤดูได้ จะเห็นได้ว่าในพื้นที่ที่เป็นดินเหนียว ก็สามารถปลูกได้เช่นกัน เพียงแค่ต้องมีการจัดการน้ำที่ดี
การดูแลน้อยหน่าเรดอิสราเอล
สำหรับการดูแลน้อยหน่าเรดอิสราเอลของนายตั้ม จะปลูกแซมระหว่างพืชหลักอย่างมะนาว ทำให้มีร่มเงาช่วยบดบังความร้อนจากแสงแดด จึงไม่จำเป็นต้องมีการตัดแต่งหนัก และ ทาสี แต่ต้องมีการใช้ไม้ไผ่ช่วยค้ำกิ่งก้านต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นล้ม ส่วนการปลูกเชิงเดี่ยวจะมีการตัดแต่งและการทาสีต้น ซึ่งมีรายละเอียดตามนี้
การตัดแต่ง ควรเริ่มตัดแต่งเมื่อต้นอายุ 18-24 เดือน โดยเลือกกิ่งที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร เอาไว้ และ นิยมตัดแต่งปีละ 1 ครั้ง ในช่วงฤดูฝน เพื่อให้แตกยอดออกมาพร้อมช่อดอก และ ยังช่วยให้ดอกออกพร้อมกัน ซึ่งการตัดแต่งนี้จะช่วยให้น้อยหน่าอิสราเอลได้ผลผลิตที่สูงกว่า
การทาสีต้น จะเหมาะสำหรับการปลูกน้อยหน่าอิสราเอลเชิงเดี่ยว ที่ไม่มีร่มไม้ช่วยพรางแสง จะนิยมทาสีต้นในช่วงหน้าแล้ง หรือ ช่วงที่ตัดแต่งกิ่งหนักไปแล้ว ทำให้ไม่มีใบไม้คลุมต้น เพื่อป้องกันการตายนึ่ง จากการถูกแดดเผาตลอดวัน โดยสีที่ใช้สามารถใช้สีทาบ้านทั่วไป และ สามารถผสมน้ำยาป้องกันเชื้อราลงไปได้
หลังตัดแต่งกิ่ง และ ใบออก ต้องบำรุงต้นด้วยปุ๋ยที่มีปริมาณไนโตรเจนสูง เช่น 21-0-0 หรือ 15-0-0 เพื่อให้แตกใบใหม่ และ เมื่อมีใบชุดใหม่ในการสังเคราะห์แสง ต้นน้อยหน่าก็จะเริ่มสะสมอาหาร พอเข้าสู่ช่วงออกดอก ให้ใส่มูลไก่ หรือ มูลค้างคาว เนื่องจากมีฟอสฟอรัสสูง ก็จะช่วยให้ดอกสมบูรณ์ดีขึ้น ควบคู่กับการใส่ปุ๋ยสูตร 15-5-20 เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเร่งการติดผล แต่จะไม่นิยมใช้มูลวัว เพราะธาตุอาหารน้อย แต่จะใช้มูลวัวในการปรับโครงสร้างดินมากกว่า เนื่องจากมีอินทรีย์วัตถุที่สูง
การป้องกันโรคแมลง สามารถใช้เป็น บาซิลลัส ซับทิลิส (Bacillus subtilis) และ เชื้อราบิวเวอเรีย (Beauveria bassiana) ฉีดพ่นทุกๆ 7-14 วัน/ครั้ง เพื่อควบคุม และ ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากแบคทีเรีย กับโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา ส่วนช่วงที่ระบาดหนัก ควรฉีดพ่นทุกๆ 3 วัน
การเก็บเกี่ยว หลังจากน้อยหน่าอิสราเอลเริ่มติดผล ใช้เวลาประมาณ 110-115 วัน จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยน้อยหน่าควรเก็บในระยะก่อนที่ผลจะสุกหรือนิ่ม แล้วนำไปบ่มต่อ 2-3 วัน เพื่อให้ทนต่อการขนส่ง ส่วน ผลที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ ผลก็จะมีสีแดงเข้มตามไปด้วย
ปัญหาที่พบในการปลูกน้อยหน่าเรดอิสราเอล
โรคที่พบมากในน้อยหน่าเรดอิสราเอล ได้แก่ โรครากเน่าโคนเน่า และ โรคแอนแทรคโนส การตัดแต่งหนักควบคู่กับการฉีดสารป้องกันเชื้อราจะช่วยให้เกิดโรคในน้อยหน่าลดลงได้ และอีกปัญหาที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ลักษณะผลเบี้ยวไม่สวยงาม ซึ่งคุณตั้มแนะนำว่า ถ้าในพื้นที่แปลงปลูกมีจำนวนไม่มาก เราต้องช่วยผสมเกสรดอกน้อยหน่าด้วย ก็จะช่วยให้ผลมีลักษณะที่สมบูรณ์สวยงาม
ส่วนในช่วงที่ติดผล ก็มักจะพบแมลงวันผลไม้ หนอนในกลุ่มผีเสื้อกลางคืน และ เพลี้ยแป้ง เข้ามาทำลาย รวมถึง นกและกระรอก ซึ่งการห่อผลในช่วงที่มีขนาดเท่าหัวแม่โป้ง ก็จะช่วยป้องการความเสียหายเหล่านี้ได้ และ การห่อผลยังช่วยทำให้ผลของน้อยหน่ามีขนาดใหญ่ขึ้นอีกด้วย
นอกจากวิธีการปลูก การดูแลน้อยหน่าอิสราเอลแล้ว สำหรับท่านใดที่อยากอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการทำเกษตรของคุณตั้ม พงศธร ลี้สธนกุล ทายาทชาวสวนรุ่นที่ 3 จากสวนผลไม้นายตั้มบ้านแพ้ว ที่เปลี่ยนจากเกษตรเชิงเดี่ยว สู่การสร้างรายได้ให้มั่นคง ด้วยสวนผลไม้ผสมผสาน ก็สามารถเข้าไป อ่านกันต่อได้ที่นี่เลย
เรื่อง : สุธินี สุปรีดิ์วรกิจ
ภาพ : กรานต์ชนก บุญบำรุง, สุรเชษฐ์ แปรกิ่ง, สวนผลไม้นายตั้มอำเภอบ้านแพ้ว
วิธีปลูกราสป์เบอร์รี่ ในเมืองไทยก็ปลูกได้ ด้วยเทคนิคที่ง่ายกว่าที่คิด
เอบิว (Abiu) ไม้ผลแปลกน่าปลูก เรียนรู้เทคนิคการปลูกและดูแลให้ติดผล