ถ้าเป็น บัวสาย ขอบใบหยักเป็นระเบียบ เห็นเส้นใบเป็นร่างแหชัดเจน ดอกบานช่วงค่ำถึงรุ่งเช้าชูขึ้นเหนือน้ำ ดอกมี 3 สีหลักๆ คือ ขาว ชมพู ม่วงแดง สำหรับบัวผัน และบัวเผื่อน ขอบใบหยักไม่สม่ำเสมอ ดอกบานชูเหนือน้ำ กลีบดอกมักแหลมงุ้ม มีหลายสีและมีกลิ่นหอมมาก บางชนิดบางพันธุ์ ยังสามารถแตกต้นอ่อน ที่ใบซึ่งนำไปปลูกเลี้ยงขยายพันธุ์ต่อได้ ส่วน บัวฝรั่ง ใบกลม ขอบใบเรียบ ดอกบานมักลอยแตะผิวน้ำ ดอกค่อนข้างกลมป้อม มีหลายสี และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
สำหรับบัวหลวง แตกต่างจากบัวประเภทอื่นอย่างเด่นชัด ทั้งใบกลมใหญ่ มีนวลปกคลุม ก้านใบติดอยู่กึ่งกลางใบและมีหนามแหลม ดอกใหญ่ สีขาวหรือชมพู มีทั้งกลีบชั้นเดียวและกลีบดอกซ้อน ชูอยู่เหนือน้ำ ฝักและเมล็ดขนาดใหญ่
ทั้งบัวหลวง ในสกุล Nelumbo บัวสาย บัวผัน และบัวฝรั่ง ในสกุล Nymphaea ปัจจุบันกลายเป็นไม้ประดับยอดนิยม เพราะด้วยความสามารถของนักปรับปรุงพันธุ์บัวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ จึงทำให้เกิดบัวหลายหลายสีสัน และรูปทรงที่เป็นเสน่ห์ชวนให้อยากปลูก ทั้งยังมีบัววิกตอเรีย (Victoria amazonica) บัวยักษ์ถิ่นกำเนิดจากลุ่มน้ำแอมาซอน ที่มีใบขนาดใหญ่ คล้ายกระด้งจนมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า บัวกระด้ง ซึ่งสามารถรับน้ำหนักได้มากหลายสิบกิโลกรัม ดอกขนาดใหญ่บานตอนกลางคืน และทุกส่วนมีหนามแหลมปกคลุม นับเป็นบัวอีกหนึ่งที่มีความแปลกแตกต่างจากบัวอื่นๆ อย่างชัดเจน
ใครอยากรู้จัก บัว และลองปลูกบัวให้ประสบความสำเร็จ อ่านเพิ่มเติมได้ในหนังสือ “ บัว ” : Waterlilies & Lotuses เขียนโดย วีระประวัติ ตรีสุวรรณ และ ภวพล ศุภนันทนานนท์ ของ สำนักพิมพ์บ้านและสวน กันค่ะ รับรองว่า ปลูกงาม ดอกบานสะพรั่งแน่นอนค่ะ
ตามไปดูแคคตัสสวยๆ