© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.
กล้วยไม้ เป็นดอกไม้ที่ใครเห็นใครก็รัก เพราะเป็นไม้ประดับที่มีรูปแบบหลากหลายและแตกต่างกันมากมาย ปัจจุบันพบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วโลกมากกว่า 796 สกุล 19,000 ชนิด และในจำนวนนี้มีถิ่นกำเนิดในเมืองไทยถึง 168 สกุล มากกว่า 1,170 ชนิด มีทั้งที่เจริญเติบโตอยู่บนดิน (terrestrial) อาศัยอยู่บนพืชอื่น (epiphytic) หรือเจริญอยู่ตามซากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ (saprophyte) ส่วนใหญ่พบในประเทศเขตร้อน โดยประเทศไทยจัดเป็นแหล่งที่มีกล้วยไม้ป่ามากแห่งหนึ่งในโลก ในทางพฤกษศาสตร์ จัดกล้วยไม้เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว และจำแนกออกเป็นสกุลต่างๆ มากมาย ซึ่งในที่นี้ขอกล่าวเพียงบางส่วน อาทิ * สกุลรองเท้านารี (Paphiopedilum) พบกระจายพันธุ์อยู่ตามทิวเขาที่มีระดับความสูงไม่มากนัก และตามป่าผลัดใบ ส่วนใหญ่เติบโตอยู่ตามพื้นดินหรือซอกหิน บางชนิดก็เกาะอาศัยอยู่ตามต้นไม้ * สกุลหวาย (Dendrobium) เป็นกล้วยไม้สกุลใหญ่ ค้นพบแล้วประมาณ 1,000 ชนิด จำแนกเป็นหมวดหมู่ย่อยมากกว่า 20 หมู่ เป็นสกุลที่นิยมพัฒนาพันธ์ุเพื่อการค้า * สกุลคัทลียาและสกุลใกล้เคียง (Cattleya & allied genera) ประกอบด้วยสกุลย่อย […]
เฟิน จัดเป็นพืชชั้นต่ำหรือพืชไร้ดอก ที่มีวิวัฒนาการมานานกว่า 400 ล้านปี เฟินช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นโลก ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิต เช่น สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ พืชมีดอกและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในเวลาต่อมา จึงกล่าวได้ว่า เฟินเป็นต้นกำเนิดของไม้ประดับในปัจจุบัน ในป่าธรรมชาติทั่วโลก มีพืชพวกเฟินและใกล้เคียงเฟิน 12,000 ชนิด 230-250 สกุล โดยกลุ่มที่เป็นเฟินแท้มีมากที่สุดคือ 10,400 ชนิด สำหรับในบ้านเราพบเฟินแท้ในธรรมชาติ 671 ชนิด 139 สกุล 35 วงศ์ (จากการสำรวจของ รศ.ดร.ทวีศักดิ์ บุญเกิด ที่รายงานไว้ในหนังสือ Pteridophytes in Thailand เมื่อปีค.ศ. 2000) ความโดดเด่นที่แตกต่าง เฟินเป็นไม้ประดับที่แตกต่างจากไม้ประดับอื่นๆ อันได้แก่ ราก เฟินมีรากฝอยที่เจริญอยู่ตามผิวดิน ซอกผาหินหรือต้นไม้ใหม่ ดูดซับธาตุอาหารได้ดี และยึดเกาะกับพื้นดินได้อย่างมั่นคง ลำต้น เฟินมีลักษณะลำต้นหลายแบบ ทั้งแบบลำต้นสูงใหญ่ เช่น ทรีเฟินหรือหัสดำ บางชนิดมีลำต้นอยู่ใต้ดิน เช่น เฟินกีบแรด บางชนิดลำต้นเป็นเหง้าทอดเลื้อยไปตามผิวดิน […]
เฟิน เป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกประดับสวน โดยเฉพาะบริเวณที่ร่มรำไร ให้บรรยากาศของสวนสไตล์เมืองร้อนที่ดูชุ่มเย็น เฟินที่ใช้เป็นไม้ประดับมีหลายชนิด หลายพันธุ์ ส่วนใหญ่ปรับปรุงพันธุ์ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม เลี้ยงง่าย โตเร็ว ขอเพียงเข้าใจลักษณะนิสัยของเฟิน และดูแลอย่างถูกวิธี วัสดุปลูก อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า เฟินที่นิยมใช้เป็นไม้ประดับมีหลายชนิด ทั้งชนิดที่เป็นเฟินดิน เฟินหิน เฟินอิงอาศัย เฟินน้ำ ฯลฯ ซึ่งแต่ละชนิดก็ใช้วัสดุปลูกที่แตกต่างกัน ตามลักษณะการอยู่อาศัยในธรรมชาติ เฟินดิน คือเฟินที่เจริญเติบโตอยู่บนพื้นป่าที่ชุ่มชื้น มีซากใบไม้ผุทับถมกัน เช่น เฟินก้านดำ เฟินนาคราช เฟินกีบแรด เป็นเฟินที่ใช้ “ดิน” เป็นวัสดุปลูก แต่จะผสมทรายหยาบ ปุ๋ยคอก ใบไม้ผุ ฯลฯ เพื่อให้เนื้อดินโปร่ง ระบายน้ำและอากาศได้ดี ตามแบบที่เฟินแต่ละพันธุ์ต้องการ Tips สูตรดินปลูกเฟิน โดย รศ.มล.จารุพันธุ์ ทองแถม ดินตะกอนหรือดินร่วน 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน อินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก ใบไม้ผุ 4 ส่วน […]
การใช้ ต้นไม้ทำรั้ว หรือรั้วต้นไม้ (Hedge) เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ช่วยเพิ่มบรรยากาศธรรมชาติกับบ้าน ช่วยป้องกันเสียง แสงและกรองฝุ่นละอองได้ดี แต่อาจไม่แข็งแรงทนทานพอที่จะป้องกันการบุกรุกของคนและสัตว์ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ในเขตเมือง การใช้ ต้นไม้ทำรั้ว ต้องพิจารณาเรื่องโครงสร้างรั้ว คือต้องหล่อเสา เทคาน เพื่อความแข็งแรง ระหว่างเสารั้วแต่ละต้นใช้วิธีขึงลวดหนามหรือกรุด้วยลวดตาข่ายแทนการก่ออิฐ ก่อหินเหมือนรั้วทั่วไป จากนั้นจึงปลูกต้นไม้ที่มีพุ่มใบหนาแน่น ข้อใบถี่ กิ่งก้านแน่น แข็งแรงทนทาน ตัดแต่งเป็นรูปทรงได้ง่าย เมื่อตัดแต่งแล้วแตกกิ่งก้านใหม่ได้เร็ว ขึ้นบังโครงสร้างรั้ว เพื่อให้ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติ เป็นวิธีที่ต้องรอเวลาให้ต้นไม้เติบโต หลายบ้านจึงนิยมออกแบบรั้วให้แข็งแรงและปลูกต้นไม้ประดับเสริมหรือล้อกับรั้ว เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติและสวยงามมากกว่า ระยะปลูก การทำรั้วต้นไม้ ส่วนใหญ่นิยมไม้พุ่มชนิดต่างๆ เช่น ชบา พู่ระหงษ์ ข่อย ชาข่อย ชาฮกเกี้ยน โมก เฟื่องฟ้า โดยจะปลูกเป็นแนว เป็นกลุ่ม มีหลายบ้านที่ใช้ไม้เลื้อย เช่น สร้อยอินทนิล อัญชัน พวงชมพู โดยทำรั้วให้เลื้อยคลุม การกำหนดระยะปลูกขึ้นอยู่กับขนาดทรงพุ่มและอัตราการเจริญเติบโต หากต้องการใช้รั้วต้นไม้อย่างรวดเร็ว ควรเลือกต้นไม้ที่โตเร็วและปลูกให้ถี่ เพื่อให้ได้ทรงพุ่มหนาแน่น แต่ถ้าไม่รีบร้อน ควรปลูกระยะห่าง ปล่อยให้เจริญเติบโตแล้วจึงตัดแต่งให้ทรงพุ่มแน่นขึ้น และควรสังเกตเงาที่ทอดจากแนวรั้วลงพื้น เพื่อเว้นระยะปลูกให้พ้นจากเงารั้วหรือเลือกต้นไม้ที่ทนร่มได้ดี เช่น […]
12 สิงหาคม เป็นวันสำคัญของชาวไทยก็คือ เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ “วันแม่แห่งชาติ” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ์ให้คนไทยและคนทั้งโลกได้ตระหนักถึงพระราชกรณียกิจอันมากมาย และปลุกจิตสำนึกให้คนหันมาอนุรักษ์ทรัพยกรธรรมชาติ ในวงการพฤกษศาสตร์จึงทูลเกล้าฯขอพระราชทานพระนามมาตั้งเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ในส่วนของคำระบุชนิด (Species Epithet) ให้กับพันธุ์ไม้ที่ค้นพบใหม่ รวมถึงตั้งเป็นชื่อพันธุ์ไม้ที่ปรับปรุงพันธุ์ขึ้นใหม่ มาดูกันว่า มีพรรณไม้ใดบ้างที่ตั้งตามพระนามของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ คัทลียาควีนสิริกิติ์ Cattleya ‘Queen Sirikhit’ ลูกผสมระหว่าง Cattleya Bow Bells กับ C.o’brieniana var. alba โดย Peter McKenzie Black จากบริษัท Black & Flory เป็นผู้ขอพระราชทานพระนามสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถและจดทะเบียนตั้งชื่อพันธุ์เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2501 เป็นกล้วยไม้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในงานประกวดของสมาคมพืชสวนอังกฤษและเป็นดอกไม้ที่สมเด็จพระบรมราชินีนาถพระราชทานให้เป็นดอกไม้ประจำวันสตรีไทย ดอนญ่าควีนสิริกิติ์ Mussaenda ‘Queen Sirikit’ ลูกผสมระหว่าง Mussaenda ‘Dona Luz’ กับ M. philippica […]
แต่ก่อนนี้ เวลาที่นั่งรถไปนอกๆ เมือง เราจะพบทุ่งรกร้างตามริมทาง ที่มีต้นหญ้าขึ้นปกคลุมมากมาย มาวันนี้เมืองขยายตัวออกไปมาก พื้นที่รกร้างกลายเป็นตึกรามบ้านเรือน ต้นหญ้า ดอกหญ้า หรือวัชพืชที่เคยชูช่อก็เริ่มหายไป หากคุณเคยเป็นเด็กที่วิ่งเล่นตามร่องสวน หรือสนามหญ้าเล็กๆ ที่โรงเรียน คุณต้องเคยเก็บหญ้าหงอนไก่มาตีกัน หรือมีเมล็ดหญ้าเจ้าชู้ติดตามเสื้อผ้า และอาจเคยเดินผ่านดงต้นสาบเสือ ซึ่งมีกลิ่นฉุน เมื่อเอ่ยคำว่า “หญ้า” เราก็มักให้คำจำกัดความว่าเป็นต้นไม้ไร้ค่า ที่ขึ้นรกเรื้อในพื้นที่ว่างเปล่า หรือแปลงเพาะปลูกพืชผลต่างๆ ซึ่งจริงๆ ควรเรียก “วัชพืช” มากกว่า เพราะในทางพฤกษศาสตร์ให้คำจำกัดความของ “หญ้า” ว่าหมายถึง พืชวงศ์หญ้าหรือวงศ์ Poaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับข้าวและไผ่ หลายคนรู้จักหญ้าหลายชนิดนิยมใช้ในการจัดสวน เช่น หญ้านวลน้อย หญ้ามาเลเซีย หรือแม้แต่หญ้าแพรก ที่เราใส่ไว้ในพานไหว้ครู ส่วนหญ้าอื่นๆ เช่น หญ้าคา หญ้าเจ้าชู้ เรามักจะคิดว่าไม่มีประโยชน์ ดังนั้น “วัชพืช” หรือหญ้าในความหมายของคนทั่วไป จึงประกอบด้วยพืชหลายวงศ์ด้วยกัน อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า คนทั่วไปมองว่า หญ้าหรือวัชพืช เป็นพืชไร้ค่า จนมีคำเปรียบเปรยว่า “รกคนดีกว่ารกหญ้า” ที่คนทั่วไปคิดเช่นนั้นก็เพราะไม่มีความรู้ในเรื่องหญ้าหรือวัชพืชดีพอ ความจริงแล้ว หญ้าหลายชนิดที่เราคิดว่าไร้ค่านั้น เป็นอาหารทั้งคนและสัตว์ เช่น […]
ระยะนี้ฝนตกบ่อย แม้แต่คนก็ยังเตือนกันให้ระวังเป็นหวัด เป็นไข้ แต่ต้นไม้คงจะดีใจที่ฝนตกเสียที เพราะแห้งเหี่ยวคอยฝนมาก็หลายเดือน สำหรับคนเมือง ฝนอาจเป็นของขวัญจากธรรมชาติที่เราไม่อยากได้เท่าไร เพราะนอกจากเปียกแล้ว รถก็ติด น้ำก็ขังรอการระบาย ไปไหนมาไหนไม่สะดวกสบาย คนที่มีสวนน้อยๆ ที่ริมระเบียง หรือสวนกว้างๆ ในบริเวณบ้าน สิ่งที่ควรทำหลังฝนตกคืออะไรบ้าง สำรวจต้นไม้ในสวน โดยเฉพาะในวันที่ฝนตก ลมแรง เพราะกิ่งไม้หรือแม้แต่ต้นอาจหักโค่นเป็นอันตรายได้ แต่ที่ถูกต้องแล้วควรตัดแต่งกิ่งตั้งแต่ปลายหน้าร้อนที่ผ่านมา พอฝนมาต้นไม้จะได้แตกยอดอ่อนและเจริญเติบโตต่อไป หากพบว่าในสวนมีน้ำท่วมขัง ควรตรวจสอบระบบระบายน้ำว่ามีส่วนไหนอุดตันบ้าง และควรเร่งระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด เพราะถ้าฝนตกซ้ำ อาจเปลี่ยนจากน้ำขังมาเป็นน้ำท่วม สร้างความเสียหายให้กับต้นไม้และอาจถึงตัวบ้านได้ เมื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้แล้ว อย่าเพิ่งเดินเข้าไปเหยียบย่ำที่โคนต้นไม้ ซึ่งเป็นบริเวณที่รากแผ่กระจายอยู่ แต่ควรรอให้ดินแห้งก่อนแล้วค่อยสำรวจต้นไม้ ตัดแต่งหรือพรวนดิน สำหรับคนที่มีสวนกระถางริมระเบียง นอกจากตรวจดูกระถางต้นไม้ว่าล้มบ้างไหมแล้ว ควรดูว่าน้ำขังอยู่ที่ระเบียงหรือไม่ โดยตรวจดูรูระบายน้ำที่พื้นว่ามีสิ่งอุดตันหรือเปล่า อาจดูไปถึงความลาดเทของพื้นว่าลาดไปทางรูระบายน้ำหรือไม่ ถ้าไม่ หลังหมดฝนก็เตรียมปรับปรุงได้ ตรวจดูในกระถางต้นไม้ว่ามีน้ำขังหรือไม่ ถ้ามีอยู่ก็ควรระบายน้ำออกก่อน น้ำที่ขังอยู่ในกระถางโดยไม่ระบายออกหลังผ่านไปสักชั่วโมง เป็นสัญญาณบอกว่า ดินในกระถางเริ่มแน่น การระบายน้ำและอากาศเริ่มไม่ดีแล้ว ก็ถึงเวลาปรับปรุงดินเสียที คนที่ปลูกแคคตัสหรือไม้อวบน้ำ ในฤดูฝนเช่นนี้ ควรเก็บเข้าที่ร่ม เพราะแคคตัสเกือบทุกชนิดไม่ชอบน้ำปริมาณมากๆ กระถางต้นไม้ที่วางหรือแขวนไว้ตามชายคา ก็ควรขยับที่ อย่าให้รับน้ำจากชายคาโดยตรง เพราะต้นอาจเสียหายได้ […]
สำหรับพวกเราที่มีชีวิตอยู่ในเขตร้อน เวลาที่พูดถึง “สน” ก็จะนึกไปถึงต้นไม้ที่มีของตกแต่งสีสวยๆ ประดับประดาสวยงามในวันคริสตมาส หรือไม่ก็นึกถึงต้นไม้รูปทรงปิรามิด ยอดแหลมๆ ที่อยู่ท่ามกลางหิมะขาวโพลน แต่ก็มีไม่น้อยที่อาจคิดไปถึงต้นไม้สูงๆ ใบเป็นเส้นๆ คล้ายเข็มที่ปลูกเรียงรายอยู่ริมทะเล “สน” พรรณไม้โบราณ ตามหลักฐานบันทึกไว้ว่า “สน” มีอายุอยู่ในช่วงต้นยุค Permian หรือประมาณ 290-248 ล้านปี หรือก่อนที่ไม้ดอกชนิดต่างๆ จะถือกำเนิดขึ้นบนโลกนี้ โดยจัด”สน” ไว้ในกลุ่มพืช Gymnosperms ซึ่งก็คือ พืชเมล็ดเปลือย หรือไม่มีสิ่งห่อหุ้มไข่ เมื่อเจริญเป็นเมล็ดจึงไม่มีเนื้อแบบผลไม้หรือพืชมีดอกอื่นๆ (ยกเว้นสนสกุล Juniperus) “สน” เป็นไม้ยืนต้น มีอายุหลายปี และเกือบทุกชนิดเขียวสดตลอดปี บางชนิดเปลี่ยนสีในหน้าหนาว มีเพียงไม่กี่ชนิดที่ผลัดใบ ใบสนมีหลายแบบ บางชนิดลดรูปเป็นรูปเข็ม (aristate) รูปลิ่ม (awl-shaped) หรือเป็นเกล็ด (scale-like) และมีอายุยาวนาน บางชนิดติดอยู่บนต้นนาน 15-20 ปี ช่อดอกมีลักษณะเป็นเกล็ดเรียงซ้อนกันเป็นรูปไข่ รูปรีหรือค่อนข้างกลม เมล็ดอยู่ในซอกเกล็ดแต่ละอัน ช่อดอกเพศผู้กับเพศเมียอยู่แยกกัน แต่อาจอยู่บนต้นเดียวกันหรือแยกต้น เนื้อไม้สนมีน้ำยาง เรียกว่า […]
แคคตัสก็เช่นเดียวกับต้นไม้นานาชนิดที่เราปลูกไว้ในสวน ซึ่งต้องการสภาพที่เหมาะกับการเติบโต อันได้แก่ ดิน น้ำ แสงแดด น้ำ แม้แคคตัสจะทนแล้งได้ดี นานๆ รดน้ำทีก็ยังเติบโตได้ แต่ปัญหาที่เรามักพบบ่อยๆ ในหมู่นักเล่นแคคตัสหน้าใหม่ก็คือ ให้น้ำมากเกินไป ตามปกติแคตตัสต้องการน้ำเฉพาะในช่วงที่กำลังเติบโต ซึ่งก็คือช่วงฤดูฝนที่มีความชื้นสูง ส่วนช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงพักตัว แคคตัสจะต้องการน้ำน้อยมาก ดังนั้นการรดน้ำในฤดูฝนจึงทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ส่วนในฤดูหนาวก็ให้ลดลง พอถึงช่วงฤดูร้อนจึงค่อยให้น้ำมากขึ้น การลดปริมาณน้ำในช่วงที่แคคตัสพักตัวจะช่วยให้ต้นผลิดอกได้ ดังนั้นเมื่อซื้อแคคตัสแล้วก็ควรถามคนขายว่า ต้นจะพักตัวและออกดอกช่วงไหน จะได้งดให้น้ำในช่วงนั้น รดน้ำอย่างไรให้ถูกวิธี การรดน้ำแคคตัสหรือต้นไม้อื่นๆ มีหลักพิจารณาคือ – สถานที่ตั้งกระถางหรือสถานที่ปลูก ให้ดูว่าสถานที่นั้นได้รับแสงมากหรือน้อย ในกรณีที่แดดจัด น้ำในดินหรือวัสดุปลูกจะระเหยได้เร็ว อาจทำให้ต้องรดน้ำบ่อยกว่าบริเวณที่ร่มรำไรหรือต้นที่เลี้ยงไว้ในบ้าน ประเมินกันว่า ต้นไม้หรือแคตตัสที่ตั้งในในบ้าน น้ำจะระเหยหมดภายใน 5-7 วัน แต่ถ้าตั้งไว้นอกอาคารจะระเหยหมดใน 2-3 วัน –ความโปร่งร่วนของดินหรือวัสดุปลูก ดินที่โปร่ง ร่วนซุยจะระบายน้ำได้ดีกว่าดินที่เหนียว หรืออัดแน่นอยู่ในกระถาง –ขนาดของกระถางหรือภาชนะปลูก ถ้ากระถางใหญ่ใส่ดินหรือวัสดุปลูกมากจะอุ้มความชื้นไว้นานกว่าภาชนะเล็กๆ –ชนิดของภาชนะหรือกระถาง มีผลต่อการรดน้ำ กระถางดินเผาจะระบายน้ำและอากาศได้ดีกว่า วัสดุปลูกอาจแห้งเร็วกว่ากระถางพลาสติก รดน้ำเมื่อไรดี -ควรรดในช่วงเช้า […]
หลายคนอาจคิดว่าแคคตัสเป็นพืชทะเลทราย น่าจะชอบทรายมากกว่า แต่จริงๆ แล้วแคคตัสก็เหมือนต้นไม้อื่นๆ ที่ต้องการดินหรือวัสดุปลูกที่เหมาะสม นั่นคือ ร่วนซุย โปร่ง เพื่อให้รากแผ่ขยาย ต้นจะได้เจริญเติบโต นอกจากนี้ก็ควรระบายน้ำดี ไม่อุ้มความชื้นไว้จนชื้นแฉะตลอดเวลา เพราะรากของต้นไม้ก็ต้องการอากาศเพื่อหายใจด้วยเช่นกัน วัสดุปลูกที่ใช่ แคคตัสแต่ละชนิดต้องการวัสดุปลูกแตกต่างกัน การผสมวัสดุปลูกให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องน่าสนุกสำหรับนักเล่นแคคตัส หากคุณต้องการเป็นนักเล่นแคคตัสตัวจริงก็ต้องหมั่นสังเกตลักษณะนิสัยของแคคตัสที่ปลูก หาข้อมูลจากนักเล่นรุ่นพี่แล้วลองผสม แต่สำหรับมือใหม่ เรามีวัสดุปลูกมาแนะนำดังนี้ สูตรที่ 1 ดินร่วน 2 ส่วน ทรายหยาบ 3 ส่วน ถ่านป่น 1 ส่วน ใบไม้ผุหรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน สูตรที่ 2 ดินร่วน 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน ถ่านป่น 1 ส่วน สูตรที่ 3 ดินร่วน 1 ส่วน ทรายหยาบ 3 ส่วน ถ่านป่น 1 […]
หลังจากทำความรู้จักกับแคตตัสกันไปบ้างแล้ว คิดว่าหลายคนคงอยากไปหาซื้อมาลองเลี้ยงบ้างแน่ๆ สำหรับมือใหม่ ก่อนไปซื้อ เรามีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ มาฝากกัน อย่างแรกเลยคือ มองหาต้นที่ชอบ ในร้านขายแคคตัสแต่ละแห่งมีต้นแคคตัสให้เลือกมากมายหลายพันธุ์ ทั้งแบบมีหนาม ไม่มีหนาม ต้นเล็ก ต้นใหญ่ สำหรับมือใหม่ เมื่อได้เห็นก็อาจจะรู้สึกว่าต้นนี้ก็ชอบ ต้นนั้นก็ชอบ ขอแนะนำให้ซื้อกระถางเล็กๆ ดูก่อน สักหลายๆ ต้นมาลองเลี้ยงดู ไม้เหล่านี้ค่อนข้างเลี้ยงง่าย เพราะเกิดและเติบโตในบ้านเรา และราคาก็ไม่แพงมาก เมื่อชนิดพันธุ์ที่ชอบแล้ว ก็มาดูรายละอียดของต้น เริ่มจากดูผิวของลำต้นว่าเต่งตึงหรือไม่ สีสันสดใสรึเปล่า รวมทั้งไม่มีรอยแผล รอยตำหนิใดๆ จากนั้นก็ดูที่หนามว่ากระจายตัวสม่ำเสมอและไม่หัก ต้นติดกับวัสดุปลูกในกระถางดี ไม่โยกคลอน ต่อไปก็ดูวัสดุปลูกว่า สะอาดหรือไม่ มีเชื้อรา วัชพืช หรือแมลงหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็แสดงว่าร้านนั้นดูแลต้นไม้มาอย่างดี ทีนี้ก็อยู่ที่เราแล้วว่าจะดูแลดีหรือเปล่า สุดท้ายดูกระเป๋าตังค์ เพราะเราอาจจะเลือกเพลินเกินเงินในกระเป๋าก็ได้ ซื้อที่ไหนได้บ้าง…. ตามปกติตลาดต้นไม้หลายๆ ที่ก็มีขายกันทั่วไป อย่าง ตลาดนัดต้นไม้วันพุธ-พฤหัส และวันเสาร์-อาทิตย์ที่สวนจตุจักร ตลาดนัดสนามหลวง 2 และอีกหลายๆ ที่ สำหรับคนที่ขี้เกียจเดินทาง ก็หาได้จาก website/Facebook […]
“แคคตัส” เป็นพันธุ์ไม้สกุลหนึ่งที่มีลักษณะหน้าตาต่างจากพันธุ์ไม้อื่นๆ จะว่าดูแปลกประหลาดก็คงได้ แต่นั่นก็คือ สิ่งที่น่าดึงดูดใจคนมากมายให้หลงใหล มาทำรู้จักหน้าตาของแคคตัสกัน ลำต้น แคคตัสเป็นไม้อวบน้ำที่มีรูปทรงตันหลากหลาย ทั้งแบบทรงกลม ทรงกระบอก ไปจนถึงสูงชะลูดคล้ายกระบอง มีทั้งที่ขึ้นเป็นต้นเดียวโดดเดี่ยว ขึ้นรวมกันเป็นกลุ่ม หรือแตกกอ เส้นผ่าศูนย์กลางของลำต้นมีตั้งแต่เล็กไม่กี่เซนต์ ไปจนถึงใหญ่เป็นเมตรๆ และอาจเป็นลำสูงใหญ่กว่า 20 เมตร หรือมีลักษณะเป็นสายห้อยลง ผิวของลำต้นเป็นมันคล้ายเคลือบด้วยขี้ผึ้ง เพื่อช่วยลดการสูญเสียน้ำ ส่วนใหญ่มีสีเขียวเพื่อใช้สังเคราะห์แสง ลักษณะต้นประกอบด้วย “ตุ่มหนาม” (areole) ซึ่งอาจเรียงต่อกันอยู่บนแนวซี่หรือสันสูงของต้นที่เรียกว่า สันต้น (rib) หรือเรียงอยู่บนเนินนูนที่เรียกว่า “เนินหนาม” (tubercles) ของต้นก็ได้ หนาม คือจุดเด่นของแคคตัส ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนใบให้กลายเป็นหนาม เพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง ทำให้ต้นคายน้ำน้อยลง อยู่รอดและเจริญเติบโตต่อไปได้ หนามของแคคตัสมีหลายแบบ หลายลักษณะ บางชนิดมีหนามแหลมคล้ายเข็มเย็บผ้า บางชนิดปลายหนามงอคล้ายตะขอ บางชนิดเป็นขนนุ่ม สีสรรก็มีหลากหลาย เช่น ขาว เหลือง สีม แดง น้ำตาล ไปจนถึงดำ ซึ่งอาจเปลี่ยนสีไปตามอายุ สภาพอากาศและการเลี้ยงดู หนามจะขึ้นเรียงอยู่บนตุ่มหนาม […]
ในบรรดาพืชพรรณต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกของเรานี้ “แคคตัส” เป็นพันธุ์ไม้สกุลหนึ่งที่มีลักษณะเด่น แปลกตา ซึ่งเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจคนให้สนใจปลูกเลี้ยงแคคตัสกันมาเนิ่นนาน จวบจนปัจจุบัน “แคคตัส” ก็ยังเป็นราชาแห่งไม้ประดับที่มีผู้นิยมปลูกเลี้ยงจำนวนมาก เพราะปลูกและดูแลรักษาง่าย ทั้งมีรายงานว่า มีคุณสมบัติช่วยดูดซับรังสีจากจอคอมพิวเตอร์อีกด้วย มาค้นหาความน่าอัศจรรย์ของ “แคคตัส” ที่กุมหัวใจของใครต่อใครไว้มากมายกัน แคคตัสคืออะไร แคคตัสก็คือ ไม้อวบน้ำ (Succulent) ชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในวงศ์ CACTACEAE เป็นไม้ยืนต้นที่มีลักษณะพิเศษต่างจากพืชชนิดอื่นๆ คือ มีลักษณะลำต้นหลากหลาย ทั้งรูปเหลี่ยม ยาวชะลูด รูปกลม ทรงกระบอก ผิวภายนอกแข็งราวฉาบด้วยขี้ผึ้ง มีหนามแหลม หรือตุ่มหนามขนาดเล็ก ใหญ่ ต่างกันไป กำเนิดแคคตัส สันนิษฐานกันว่า ต้นตระกูลของแคคตัสเกิดขึ้นในช่วงปลายยุค Mesozoic และช่วงตันยุค Tertiary (ยุควิวัฒนาการของพืชมีดอก) เชื่อกันว่า แคคตัสสมัยนั้นมีลำต้นแตกกิ่งก้านสาขา ผลิใบ ออกดอกติดผลเหมือนต้นไม้ทั่วไป ต่อมาเมื่อสภาพแวดล้อมของโลกเปลี่ยนแปลงเป็นแห้งแล้ง แคคตัสจึงต้องปรับสภาพตัวเองให้ดำรงอยู่ได้ โดยพัฒนาโครงสร้างของลำต้นให้เก็บสะสมน้ำไว้ได้มากถึง 80-90 เปอร์เซนต์ รากไม่หยั่งลึกลงใต้ดินมากนัก เพื่อจับน้ำในอากาศได้ง่าย เปลี่ยนใบเป็นหนาม เพื่อพรางความร้อนของแสงอาทิตย์และลดการคายน้ำ แคคตัสส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดแถบทะเลทรายในทวีปอเมริกาใต้ มีบางชนิดเติบโตได้ดีในป่าร้อนชื้น […]
ไข่ไก่สดๆ จากเล้ารสชาติอร่อยที่ได้ลองกินทำเอาติดใจจนอยากจะลอง เลี้ยงไก่ ไว้เก็บไข่กินเองดูบ้างระยะหลังมานี้หลายบ้านก็เริ่มหันมาเลี้ยงไก่ไข่ไว้ในครัวเรือน
การขยายพันธุ์ต้นไม้เพื่อให้ได้จำนวนมากๆ นั้นสามารถทำได้มากมายหลายแบบด้วยกัน ต้นไม้บางชนิดเหมาะสำหรับเพาะเมล็ด บางอย่างสามารถแยกกอ
วิธีตอนกิ่ง เป็นวิธีขยายพันธุ์ ที่ใช้กับพืชได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นฝรั่ง มะเฟือง มะนาว ฯลฯ นิยมทำบาดแผลด้วยการควั่นกิ่งจะออกรากได้ง่ายที่สุด
ต้นไม้ของเราก็ต้องการอาหารในการเจริญเติบโตเช่นเดียวกับมนุษย์เรานั่นแหละคะ เพียงแต่ไม่สามารถพูดหรือร้องบอกเราได้ว่าต้องการอะไร หรือกำลังป่วยเป็นอะไร
ตลาด Garden&Farm’s Friends กลับมาให้คนรักษ์โลกได้เลือกสรรสินค้าปลอดภัย สินค้าชุมชน เกษตรอินทรีย์ ในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “พืชเครื่องดื่ม Taste of the Harvest”